ถึงเวลาฝ่าวิกฤตลงทุนใน Rolex และนาฬิกาหรูแล้วหรือยัง

• Facebook
• Twitter
• Line

ข้อเท็จจริงที่ว่าแบรนด์นาฬิกาหรูอย่าง Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet และ Hublot ได้หยุดพักไลน์การผลิตในขณะนี้ เหตุเพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสแล้วกว่า 47,000 คน แม้ว่าโรงงานนาฬิกาจะมีแผนในการควบคุมและป้องกันไวรัส แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเว้นระยะห่างกันได้ตามมาตรการ เท่ากับว่าความเสี่ยงนั้นยังมีอยู่ ท้ายที่สุดการหยุดพักไลน์การผลิต จึงเป็นคำตอบที่รับผิดชอบต่อสังคมและเป็นทางออกที่ดีที่สุด

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

นั่นคือสาเหตุที่นาฬิการุ่นยอดนิยมจาก Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet, Hublot จึงวางจำหน่ายลดน้อยลงไปในช่วงนี้ และทำให้การจะหาซื้อนาฬิกาเหล่านี้ภายในอนาคตอันใกล้ จะกลายเป็นเรื่องยากขึ้นกว่าปกติ หากมองในแง่ขอการลงทุนนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการซื้อเก็บไว้ หากมีกำลังทรัพย์และสามารถหามาครอบครองได้ เพราะขณะนี้การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงซบเซาต่อเนื่อง นาฬิกาอันล้ำค่าที่มีการซื้อขายกันในตลาดมือสอง จึงเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อย

 

มีการคาดการณ์ไว้ว่า เมื่อวิกฤตการณ์เริ่มคลี่คลาย อาจได้เห็นราคานาฬิกาใหม่เอี่ยมจากบิ๊กเนมมีเรตพุ่งสูงขึ้น เพื่อเป็นการชดเชยการสูญเสียที่ Covid-19 ทิ้งบาดแผลไว้ให้กับพวกเขา ซึ่งนั่นเท่ากับว่าราคานาฬิกาหรูในตลาดมือสองจะขยับขึ้นตามโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ใครก็ตามที่กล้าชิงลงทุนก่อนในช่วงนี้น่าจะได้รับความโชคดีเป็นรางวัล และยังคงเป็น Rolex และ Patek Philippe ที่ควรคู่มากที่สุด หากคุณคิดจะตัดสินใจในการวางแผนลงทุนคราวนี้

 

ต่อคำถามที่ว่าเมื่อราคาทองคำแท่งลดลง Rolex และ Patek Philippe ในรุ่นที่ทำจากทองคำขาวจะมีราคาถูกลงหรือไม่ ตรงนี้มีคำตอบที่น่าสนใจ…

 

ราคาขายของ Rolex มักจะขึ้นอยู่แล้วในทุกๆ ปี เพื่อป้องกันตัวเองจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะมีโรงหล่อโลหะในแบบฉบับมาตรฐานของแบรนด์ ที่ต้องใช้งบประมาณมากพอตัวในการบริหารและจัดการ เพื่อให้ได้ Oystersteel ชั้นเยี่ยมมาผลิตชิ้นงานตัวเรือนนาฬิกา ซึ่งหมายความว่า ในสถานะของพวกเขามีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับผลกระทบจากราคาทองคำที่ขึ้นลงผันผวนมาโดยตลอด (ทุกยุคทุกสมัย) เพราะการมีโรงหล่อเป็นของตนเอง สามารถควบคุมปัจจัยความเสี่ยงนี้ได้อย่างแม่นยำ

 

Patek Philippe ก็เช่นกัน มีชื่อเสียงมานานในการรักษามาตรฐานของแบรนด์ จนกลายเป็นความเชื่อมั่นตามแบบฉบับนาฬิกาสวิส คุณสามารถคาดหวังได้เลยว่าจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อย 2,255,000 บาท เพื่อซื้อนาฬิการุ่น Nautilus 5711 ตัวแทนจำหน่ายบางรายให้ทัศนะที่น่าสนใจไว้ว่า อีกเจ็ดถึงแปดปีให้หลังมันจะกลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจริงๆ เพื่อให้ได้ส่วนต่างที่มากกว่า ยิ่งถ้าคุณมีเงินเย็นนอนนิ่งไว้ ประเด็นนี้ควรนำไปไตร่ตรองให้ดี

 

นาฬิกาแบรนด์ใหญ่เหล่านี้มักทำให้คุณตื่นเต้นไปกับการโลดแล่นในการสรรหาเพื่อสะสมและการลงทุน แต่ถึงฟังดูน่าสนใจมากขนาดไหน คุณก็ต้องรู้จักการรอคอยอย่างอดทนเช่นกัน โดยปกติราคานาฬิกาจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน บางครั้งต้องใช้เวลาหลายปี หากคุณมีความเชื่อมั่นในนาฬิกาข้อมือเกรดเยี่ยมของคุณ สิ่งที่ต้องเตรียมใจรับความเป็นจริงเอาไว้ด้วยก็คือ คุณจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อรอคอยผลตอบแทนจากการลงทุน และถ้าคุณทำการบ้านได้ดี มีข้อมูลมากพอ ในท้ายที่สุดคุณจะพบกับความพอใจอย่างไม่ต้องสงสัย

 

โดยรวมแล้วสิ่งสำคัญก็คือ หากคุณคาดหวังกับการลงทุนในนาฬิกาหรู ในความเป็นจริงไม่เพียงแค่ต้องลงทุนด้วยเงินเท่านั้น แต่ยังต้องให้เวลาเพื่อที่จะทำความคุ้นเคยกับแบรนด์ต่างๆ ที่คุณกำลังสนใจอยู่ การซื้อขายอย่างชาญฉลาด หมายถึงการมีนาฬิกาดีๆ สักเรือนที่คงคุณค่าไว้ และหากตัดสินใจขายมันออกไปในวันใดวันหนึ่ง ก็จะไม่เกิดความผิดพลาดในเรื่องส่วนต่าง ซึ่งมากพอที่จะทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเสาะหานาฬิกาเรือนใหม่ต่อไป หรือรางวัลให้กับตนเอง ไม่ว่าในรูปแบบของตัวเรือนหรือเงินสดในบัญชี

 

อ้างอิง:

https://www.chrono24.com/magazine/are-watches-really-a-good-investment-p_30657/#gref

https://www.watchesofwales.co.uk/blogs/watch-articles/coronavirus-rolex-prices

• Facebook
• Twitter
• Line