5 หอนาฬิการะดับท็อปของยุโรป ที่ต้องไปเยือน

• Facebook
• Twitter
• Line

สำหรับคนรักเวลา หลงใหลนาฬิกาแล้ว การได้ไปเยือน 5 หอนาฬิการะดับท็อปฟอร์มของยุโรป ที่ผสานทั้งงานดีไซน์ สถาปัตยกรรม และศิลปะแห่งยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม เป็นอะไรที่ฟินและอินสุดๆ คราวนี้ Crazy Dial นำมาแนะนำ ถึงคราวคลายล็อกดาวน์เปิดประเทศทั่วโลกเมื่อไร เตรียมล็อกเป้าหมาย แล้วออกเดินทางไปชมกันได้ อย่าให้เสียชื่อพวกเราชาว Crazy Dial กันเชียว

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

‘Big Ben’ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

หอนาฬิกาที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของยุโรป และเป็นแลนด์มาร์กแห่งกรุงลอนดอน ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและต่างเรียกขานกันในนาม ‘บิกเบน’ ทั้งๆ ที่ชื่อถูกต้องอย่างเป็นทางการของมันคือ ‘Elizabeth Tower’ ส่วน ‘บิกเบน’ นั้นเป็นชื่อเรียกแทนระฆังใบใหญ่ทั้ง 5 ใบ ซึ่งแขวนไว้บริเวณช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา มันจะตีบอกเวลาทุกชั่วโมงเมื่อเข็มสั้นชี้ที่ตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา เป็น ‘Voice of Britain’ ของชาวลอนดอนเนอร์ที่ดังก้องกังวาลไปทั่ว อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 นี้เองที่ระฆังยักษ์แห่งสหราชอาณาจักรต้องเงียบงัน ไม่เหมือนก่อนเก่า  เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษทำการปรับปรุง ซ่อมแซม และจะปล่อยให้ดังเฉพาะช่วงวันหยุดสำคัญ หรือเทศกาลพิเศษเท่านั้น

Go Further: เดินชิลล์ๆ ในแผนก Fine Watch Room ห้าง Harrods ที่อัดแน่นไปด้วยนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำของโลกมากกว่า 50 แบรนด์

 

‘Town Hall Clock’ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก

เรียกกันในชื่อภาษาไทยอย่างเพราะพริ้งว่า “นาฬิกาดาราศาสตร์” ผลงานมาสเตอร์พีซแห่งยุคโกธิค เป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์ ที่เปี่ยมไปด้วยความประณีตทั้งด้านเทคโนโลยีและรายละเอียดการออกแบบ ตั้งตระหง่านคู่บ้านคู่เมืองกรุงปรากมาตั้งแต่คริสต์ศักราช 1410 ข้อมูลประวัติศาสตร์เล่าว่า หลังจากผ่านการแก้ไข ปรับปรุงแบบ และก่อสร้างมายาวนานจนแล้วเสร็จ สถาปัตยกรรมนี้ได้กลายเป็นหอนาฬิกาที่งดงามและแปลกตาแบบหาใดเหมือน โดยเฉพาะเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก นั่นคือ หุ่นกระบอก 12 อัครสาวก ที่จะปรากฏกายออกมาระหว่างเสียงระฆังดังกึกก้องทุกๆ ชั่วโมง

Go Further: ‘Parizska’ ถนนสายเล็กๆ สวยขั้นเทพ ทอดยาวสู่จัตุรัสเมืองเก่า คือแหล่งช็อปปิ้งสินค้าระดับไฮเอนด์ มีทั้งนาฬิกา เสื้อผ้า และกระเป๋าแทบทุกแบรนด์

 

‘Zytglogge’ กรุงเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์

จำให้ขึ้นใจว่า กรุงเบิร์น คือเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แหล่งกำเนิดนาฬิกาหรูแบรนด์ดังๆ ทั้งหลาย และหอนาฬิกา ‘Zytglogge’ (ซึตกลอกเก) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศักราช 1530 เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือน ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า มีไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอชมและถ่ายภาพตรงที่ ‘Golden Hour Beater’ นั่นคือ ในทุกๆ 5 นาทีก่อนครบชั่วโมง จะมีเสียงไก่ขัน จากนั้นจะมีเหล่าตุ๊กตาเริงระบำเป็นวงกลมภายใต้บัลลังก์เทพเจ้าแห่งกาลเวลา (โครนอส) ตามด้วยเสียงระฆัง เป็นอันสิ้นสุดการแสดง ขอบอกว่า ชมเพลินกันเลยละ

Go Further: Bucherer ตั้งอยู่บนถนน Marktgasse ไม่ไกลจากหอนาฬิกา เป็นสโตร์ใหญ่ยักษ์ที่รวบรวมแบรนด์นาฬิกาหรูและจิวเวลรีสัญชาติสวิสแท้ดั้งเดิมไว้ทั้งหมด

 

‘Anchor Clock’ กรุงเวียนนา ออสเตรีย

เรือนเวลาขนาดใหญ่ชื่อกระฉ่อนแห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ประดับอยู่บนทางเชื่อมระหว่างอาคารของ Anker Insurance Company มีทำเลอยู่ในย่านจัตุรัส Hoher Markt เป็นนาฬิกาซึ่งออกแบบโดยจิตรกรแนวอาร์ต นูโว ‘Franz Matsch’ ใช้เวลาก่อสร้างระหว่างปี 1911-1917 ทุกวันเวลาเที่ยงตรง นาฬิกาเรือนนี้จะแสดงขบวนพาเหรดรูปปั้น 12 บุคคลสำคัญจากประวัติศาสตร์ของกรุงเวียนนา เคลื่อนไปตามแนวทางเชื่อมอาคาร ไล่เรียงลำดับไปตามตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา พร้อมกับบทเพลงบรรเลงแนวคลาสสิกสุดไพเราะ ที่มีความเชื่อมโยงกับรูปปั้นบุคคลสำคัญเหล่านั้น

Go Further: ถิ่นกำเนิดแบรนด์ ‘Carl Suchy & Söhne’ ช็อปตั้งอยู่บนถนน Prinz-Eugen เยื้องพระราชวัง Belvedere ไม่ไกลจากถนนวงแหวนรอบใจกลางเมือง ไปถึงที่นั่นแล้วต้องโดนสักเรือน

 

‘Cuckoo Clock’ เมืองทรีแบร์ก เยอรมนี

เมืองทรีแบร์ก อิม ชวาร์ซวัลด์ (Triberg im Schwarzwald) ในเขตป่าดำทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี คือ แหล่งกำเนิดนาฬิกาโบราณสัญชาติเยอรมันหลากหลายแบรนด์ และยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นตำรับ ‘นาฬิกากุ๊กกู’ ที่ทั่วโลกรู้จัก ที่นี่จึงมีนาฬิกากุ๊กกูขนาดใหญ่ที่สุดของโลกเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นสัญลักษณ์ของป่าดำเคียงข้างหมวก Bollenhut ลูกเชอร์รี และเค้กช็อกโกแลต ไฮไลท์ของนาฬิกากุ๊กกูคือ นกกาเหว่าไม้ขนาด 4.5 เมตร น้ำหนัก 6 ตัน เคลื่อนตัวออกมาร้อง “กุ๊กกู กุ๊กกู” ผ่านบานหน้าต่างบนชั้นหนึ่ง ให้เห็นกันทุกๆ ชั่วโมง น่ารักไปอีก

Go Further: เพราะเป็นเมืองชนบท จึงควรอิ่มเอมกับธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา ทะเลสาบ และชมพิพิธภัณฑ์ รอบๆ ตัวเมืองน่าจะดีที่สุด หรือจะสอยนาฬิกากุ๊กกูต้นตำรับเป็นของที่ระลึกกลับมาด้วยก็ไม่ผิด

• Facebook
• Twitter
• Line