อัพเดทอุตสาหกรรมนาฬิกาโลก ในช่วงเวลาอันท้าทายที่สุด กับการกลับมาอย่างสง่างาม

ยืดเยื้อมานานร่วม 1 ปีแล้วกับภาวะวิกฤต Covid-19 ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก และดูเหมือนว่าการระบาดของเจ้าไวรัสร้ายนี้ยังไม่ทุเลาลง ความหายนะที่เกิดจากโรคระบาดทำให้แต่ละประเทศเข้มงวดกับนโยบายปิดกั้นน่านฟ้าและพรมแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

ส่งผลให้ธุรกิจงานบริการและการค้าปลีกได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงอุตสาหกรรมนาฬิกาหรู และสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ที่แม้ว่าช่องทางการขายทางแพลตฟอร์มออนไลน์จะสามารถช่วยในการขยับยอดขายก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่า รูปแบบการทำธุรกิจในวันนี้แตกต่างไปจากที่เคยเป็นมาเมื่อวันวาน

เริ่มตั้งแต่นโยบายห้ามรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก ทำให้รูปแบบการจัดงานอีเวนต์กลายเป็นสิ่งต้องห้าม แบรนด์ชั้นนำหลายแบรนด์จึงเปลี่ยนวิธีการ มาเป็นรูปแบบการจัดแสดงผลงานในระบบดิจิทัล ซึ่งดูเหมือนว่าจะเข้าท่าและได้รับการตอบรับที่ดี อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจคือ การจัดงานสเกลเล็กๆ ที่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส กำลังเป็นที่นิยมในเมืองใหญ่ต่างๆ

ตัวอย่างเช่นงาน Geneva Watch Days กับแนวคิดในการนำแบรนด์นาฬิกาและสื่อมวลชนไปที่เจนีวาสอง-สามวัน เพื่อทำการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ๆ ซึ่งแบรนด์นาฬิกาอย่าง Bvlgari, De Bethune และ Girard-Perregaux สามารถนำเสนอเผยแพร่ข้อมูลตลอดทั้งปีต่อสื่อมวลชนได้อย่างน่าพอใจ และประสบความสำเร็จในการจัดงานเป็นอย่างมาก กระทั่งเกิดเป็นแนวคิดเชิงลึกว่า อุตสาหกรรมนาฬิกาหรูน่าจะต้องเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ นี้ เพื่อเป็นการนับหนึ่งในการทำแผนการตลาด และหาจุดเริ่มต้นในการกลับมาอย่างสง่างาม ในช่วงเวลาอันสุดแสนท้าท้ายที่เป็นอยู่ในขณะนี้

อีกหนึ่งกรณีน่าสนใจจาก Tudor Black Bay 58 Blue นาฬิกาดำน้ำยอดนิยมรุ่นสีน้ำเงิน ที่พร้อมวางจำหน่ายหน้าร้านในวันเดียวกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งปกติแล้วเป็นกลยุทธ์การขายในแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่น แต่ในเวลานี้กลยุทธ์ดังกล่าวถูกนำมาใช้สำหรับอุตสาหกรรมนาฬิกาหรู พร้อมการทำแผนพีอาร์ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ขณะเดียวกันกับที่ลูกค้าบางรายเริ่มโพสต์ภาพนาฬิกาเรือนโปรดที่ได้ครอบครองนับร้อยภาพผ่านพื้นที่โซเชียลของตนเอง ผลลัพธ์คือ เป็นการสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง ซึ่ง Black Bay 58 ทำให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดีไว้แล้ว

จึงไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อพี่ใหญ่อย่าง Rolex หันใช้กลยุทธ์ใกล้เคียงกันในอีกสามเดือนต่อมา ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ ซึ่งลูกค้าแฟนพันธุ์แท้จำนวนมากมีการแบ่งปันความสุข ด้วยการโพสต์​ภาพนาฬิกาเรือนใหม่อย่างภูมิใจ หลังจากที่ Rolex ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ทว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กลยุทธ์แบบนี้จะเป็นคำตอบที่ใช่หรือไม่ อย่างไร เพราะที่ผ่านมาอุตสาหกรรมนาฬิกาหรูไม่ได้มีชื่อเสียงขึ้นมาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งรีบ เฉียบพลัน หากแต่ต้องปรับเปลี่ยนหลักการคิดบางอย่างเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง

คงต้องจับตาดูกันต่อไปอีกสักระยะว่า กลยุทธ์ใหม่เหล่านี้จะยังคงมีต่อไป หรือจะเป็นแค่การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเพียงชั่วคราว