ว่ากันด้วยปัจจัย ขึ้น-ลง ของนาฬิกาในตลาด Resell ในปี 2021

• Facebook
• Twitter
• Line

ผ่านเดือน Oct ไปแล้ว เหลืออีก 2 เดือนจะหมดปี 2021 อย่างที่ทราบราคาในปี 2021 เทียบช่วงต้นปี กับ ปลายปี ราคาหลายๆตัวขึ้นมาอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น AP 15450st Blue เพิ่มจาก 1m ไปที่ 1.5m, Patek 5167a เพิ่มจาก 1.2m ไปที่ 1.8m, Daytona White Ceramic เพิ่มจาก 900k ไปที่ 1.3m   เรามาดูกันว่ามีปัจจัยหลักๆอะไรบ้าง

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

ปัจจัยบวก ที่ทำให้ราคาขึ้น

1. Price List ปรับราคาขึ้น

• ปีนี้ที่ชัดๆ คือ AP ที่มีการปรับราคาขึ้น 2 ครั้งในปีนี้ในเดือน Jan และ เดือน Sep รวมกันขึ้นมาประมาณ 12-30% (ขึ้นไม่เท่ากันในแต่ล่ะรุ่น) ซึ่งส่งผลให้ราคานาฬิกา AP ในตลาด Resell เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด

2. การประกาศ discontinue

• การประกาศ discontinue ของ Patek 5711 คือ ที่สุด ของการเลิกผลิตจริงๆ เพราะนอกจากจะเป็นการแจ้งล่วงหน้า 1ปี และ ยังส่งผลให้คู่แข่งคือ AP ประกาศ 15202st ประกาศ discontinue ตามและทำให้ นาฬิกา Patek และ AP ขึ้นกันทั้งแผง

3. New Model

• New Model ของปีนี้มีอออกมาหลาย Brand แต่ ที่ Impact ตลาดแบบ ผลิกฟ้า ผลิกดิน ต้องยกให้กับ Oyster Perpetual หลากหลายสี ของ Rolex ที่ทำให้นาฬิกา ในหมวด Date Just มีการปรับราคาขึ้น ขายได้ มาก กว่า Price List และ มีศักดิ์ศรีไม่เป็นตัวพ่วงอีกต่อไป
• อีก Brand ที่ทำได้ดี คือ Royal Oak Offshore ที่ออกมา size 43 ใหม่ราคา Resell เกินราคา List เลยไปลากพี่ๆ ทั้ง 42 และ 44 mm ขึ้นตามกันมาเป็น พรวน

4. Demand จากต่างประเทศ

• ในช่วงต้นปี ทั้ง Patek, AP และ Rolex ราคายังถูกกว่าต่างประเทศทำให้พ่อค้าต่างประเทศ เข้ามาซื้อกันอย่างสนุกสนาน ส่งผลให้ราคา ไล่ขึ้นออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

5. การปรับตัวพ่วงของ AD

• ความต้องการที่มากขึ้นของลูกค้า กับตัว Hot Model ทำให้การจัดสรร เป็นไปอย่างยากลำบาก AD ก็มีการจัดการให้ซื้อตัวพ่วงที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนของตัว Hot Model สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (90% ของนาฬิกาตัวพ่วง ขาดทุน) ยกตัวอย่างเช่น ปีที่แล้ว Daytona ต้องซื้อตัวพ่วงสะสมยอด 1 m ในปี 2021 ต้องซื้อตัวพ่วงสะสมยอด 5 m เป็นต้น
• ถ้าตัวพ่วงต้องขาดทุน 20% ต้นทุน Daytona
  • ปี 2020 = 450,000 + 200,000 (20%ของ 1 m) = 650,000
  • ปี 2021 = 450,000 + 300,000 (20%ของ 5 m) = 750,000

6. เงินบาทอ่อนตัว

• เงินบาทอ่อน เวลาสั่งนาฬิกาจากต่างประเทศแพงขึ้น ราคานาฬิกา จึงต้องขึ้น

7. นาฬิกา คือ การลงทุน

• ปีนี้สำหรับพ่อค้านาฬิกา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกค้ากลุ่ม ลงทุน ในนาฬิกา (Trader) เพิ่มขึ้นอย่างมากจน และ กลุ่มลูกค้าที่รักและชื่นชอบนาฬิกาลดน้อยลงไป(Collector) อาจจะด้วยสถานการณ์ โควิด 19 ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้อง Work from home หรือ อาชีพใหม่ ทำให้มีการลงทุนในตลาดทุน ตลาดคริปโต และ ตลาดนาฬิกาเพิ่มขึ้น เมื่อผู้เล่นเพิ่ม ความต้องการเพิ่ม ราคาก็ดันขึ้น

8. ภาษีมรดก และ กม เกี่ยวกับการเงิน

• ภาษี มรดก คนรวยหลายคนเก็บที่ดินไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน แต่ต้องเสียภาษี เวลาโอน นาฬิกาจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เพราะ ราคาขึ้นไม่แพ้ที่ดิน ดูแลง่ายกว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลน้อยกว่า เวลาส่งต่อก็แค่หยิบให้เท่านั้น
• กฎหมายคุ้มครองเงินฝากแค่ 1m ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ เศรฐษีหลายๆท่านเลือกที่จะเปลี่ยนเงินฝาก มาเป็นนาฬิกาในเชฟแทน นึกภาพ สด 15m กับ นาฬิกา RM 1 เรือนในเชฟ นาฬิกาเก็บง่ายกว่าเยอะ

 

ปัจจัยลบ ที่ทำให้ราคาเริ่มย่อ

1. ความอิ่มตัวของผู้เล่น

• หลายท่านซื้อ จนไม่รู้จะซื้ออะไรแล้ว เพราะรุ่นที่ทำกำไรมันมีอยู่ไม่กี่รุ่น

2. สภาพเศษฐกิจ

• หลายคนกังวลกับ ปีหน้าที่ยังไม่รู้จะออกในทิศทางไหน เลยเลือกที่จะถือเงินสดดีกว่า

3. Demand จากต่างประเทศ เริ่มหาย

• พ่อค้าต่างประเทศ บ่นว่า แพงจนซื้อไม่ไหว

4. เปิดประเทศ

• การเปิดประเทศจะทำให้พ่อค้าต่างประเทศเดินทางสะดวกขึ้น(แต่ไม่เปิดก็ส่งของกันได้อยู่แล้ว) จะเกิด 2 มุมคือ ตัวที่ถูกสำหรับพวกเขา ก็จะถูกซื้อไป แต่ตัวที่บ้านเขาถูกบ้านเราแพงก็จะ เท มา ซึ่งตัวพวกนั้นราคาจะย่อแน่นอน

5. ตลาดทุน และ ตลาดคลิปโต

• ต้องยอมรับเลยว่า เป็นปีของ พวก เหรียญ จริงๆ ขึ้นลงแบบมากๆ ทำให้ นักลงทุนในนาฬิกาหลายๆ คนเทขายนาฬิกาไปเข้า พวกเหรียญ

6. โอกาสที่ค่าเงินบาทจะแข็งขึ้นจากปัจจัย แวดล้อม

• บาทแข็ง นาฬิกาที่มาจากต่างประเทศจะถูก เท่าที่ดูเวลานี้ บาทคงจะแข็งเองไม่ได้ แต่ US อ่อนได้จากภาพรวมตลาดโลก เช่นกัน

อันนี้คือ ภาพรวม ของตลาด นาฬิกาไทยในปี 2021 ซึ่งมีการพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2020 ส่วนที่เห็นได้ชัดคือการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เล่นนาฬิกาในสัดส่วนที่เห็นเป็นโอกาสการลงทุน และมีการแบ่งเงินไปลุยตลาดหุ้นกับ คลิปโตในช่วงปลายปี ในปีหน้า ตลาดนาฬิกา ไทยจะพัฒนาไปในทิศทางใด มาลุ้นกันดู โดยความเห็นส่วนตัว เชื่อว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่เราต้องเล่น นาฬิกา แบบ Selective item คือ มีบางตัวขึ้น มีบางตัวลง ท่านที่ชื่นชอบนาฬิกา คือ ซื้อเพื่อจะใส่ก็คงไม่ต้องกังวล เพราะปลายทางของท่าน คือความสุขและกำไร ส่วนท่านที่ซื้อเพื่อจะเก็งกำไร หรือ ลงทุนก็ต้องทำการบ้าน เลือกตัวที่ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดี

 

May The Force Be With You

Anakin Skywalker

• Facebook
• Twitter
• Line