5 ดาวเด่น โดนใจ Crazy Dial ส่งตรงจากงาน Watches & Wonders 2022

• Facebook
• Twitter
• Line

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงานแฟร์ โลกเวลาหรูอันดับหนึ่ง Watches & Wonders 2022 ณ เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กับรูปแบบงานที่ปล่อยให้สาวกผู้หลงรักนาฬิกาได้มาพบปะรวมตัวกันจริงๆ สักที หลังจากบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 เราเองก็ดีใจที่ได้เห็นอะไรๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง โดยเฉพาะเมื่อได้ยล 5 เรือนดาวเด่น ตามลิสต์นี้

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

1. Patek Philippe 5326G-001

เอ่ยถึงแดนดินถิ่นเวลาหรูจากสวิส หากไม่มี Patek แล้วคงไม่ใช่ สำหรับโฉมล่าสุด เพราะเป็นการผสมผสมความเป็น Travel Time เข้ากับฟังก์ชันปฏิทินประจำปี ทำให้ 5326G-001 เป็นเรือนเวลาท็อปสุดของรุ่น 2022 ภายใต้รูปโฉม Calatrava ตัวเรือนสวยหรูจากทองคำขาวบนหน้าปัด 41 มม. และลายกิโยเช่ Hobnail หรือ Clou de Paris (มีลักษณะเหมือนพีระมิดฐานสี่เหลี่ยมปลายแหลม เรียงต่อเนื่องเป็นแพทเทิร์น) บริเวณขอบข้างกลไกไขลานอัตโนมัติ เหนือสิ่งอื่นใดระบบปฏิทินประจำปี กำหนดให้ปรับแต่งแค่ปีละครั้งเท่านั้น        

 

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร

กลไก : Patek Philippe Calibre 31-260 PS QA LU FUS 24H อัตโนมัติ
ฟังก์ชัน : Time, Second Time Zone, Annual Calendar
กันน้ำลึก : 30 เมตร
ราคา : 2,613,000 บาท

---

2. Vacheron Constantin 222

จอกศักดิ์สิทธิ์ลำดับ 3 ของเทพสวิส ปลดปล่อย Vacheron Constantin 222  ตำนานที่ออกแบบโดย Gerald Genta จากรุ่นดั้งเดิมปี 1977 จนกลายเป็นต้นฉบับให้เกิดทั้ง Nautilus และ Royal Oak เสมือนเป็นการเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในอดีตของ Genta โฉมใหม่นี้มาในตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ฟูลบอดี้ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 37 มม. และหนาเพียง 7.95 มม. เท่านั้น หน้าปัดโทนสีทองแบบด้านดูวิจิตรงดงาม โดยมีเข็มชั่วโมงและนาทีตรงกลางเพื่อระบุเวลา พร้อมด้วยหน้าต่างวันที่ ตัวเรือนคริสตัลแซฟไฟร์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับหกโฉมก่อนหน้านั้น

 

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 37 มิลลิเมตร

กลไก : Vacheron Constantin Calibre 2455/2
ฟังก์ชัน : Time และ Date
กันน้ำลึก : 50 เมตร
ราคา : 2,125,000 บาท

---

3. Rolex GMT Master II 126720VTNR

ยิ่งกว่าว๊าว ยิ่งกว่าจะยกยอคำใดๆ ถูกพูดถึงกันไปทั้งโลก คงหนีไม่พ้น Rolex GMT Master II 126720VTNR โดยเฉพาะงานดีไซน์ซ้ายสุดซอยครั้งแรก (การย้ายตำแหน่งหน้าต่างวันที่มาอยู่ ตรง 9 นาฬิกา เคียงข้างเม็ดมะยม) เป็นอะไรที่เกิดคาดมากๆ เมื่อรวมเข้ากับขอบ Bezel หมุนได้ 2 ทิศทาง พร้อม Cerachrom Insert สีดำสลับเขียว ติดฟังก์ชันตามแบบฉบับของ GMT มีสายให้เลือกทั้งแบบ Oyster และสายปัดลายสลับขัดเงา (Jubilee) ไม่ต้องบอกก็รู้เจ้านี่มีอนาคตไกลแน่นนอน ที่น่าลุ้นต่อ เห็นจะเป็นนิกเนมมากกว่าว่า จะได้ฉายาอะไรให้โลกได้จำ

 

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 40 มิลลิเมตร

กลไก : Rolex Caliber 3285 อัตโนมัติ
ฟังก์ชัน : Time, Date, Second Time Zone
กันน้ำลึก : 100 เมตร
ราคา : 375,700 บาท

---

4. IWC Pilot’s Watch Chronograph Top Gun Edition “Lake Tahoe”

เอาจริงๆ แบรนด์สายเลือดนักบิน IWC ผ่านการทดลองสร้างตัวเรือนสีสันมาหลายปีดีดักแล้ว ย้อนไปตั้งแต่โมเดล Jet-Black ref. 3705 จากช่วงทศวรรษ 1990 หรือแม้กระทั่ง Mojave Desert รุ่นล่าสุดกับสีสันแห่งเม็ดทราย อย่างไรก็ตามโมเดลเหล่านี้ หน้าตายังดูซีเรียสคล้ายๆ กัน เมื่อเจ้า “Lake Tahoe” ลิมิเต็ด อิดิชั่น ปรากฎจึงเป็นอะไรที่ต่างออกไป โดยเฉพาะสุภาพบุรุษนักบิน มาในบอดี้สูทเซรามิกสีขาวนวลตา ที่ดูเป็นมิตร มีเสน่ห์ชวนมอง ไม่ซีเรียส เหมือนกับรุ่นพี่ๆ จากหลักสูตร  IWC Pilot แต่ยังแฝงซึ่งความเท่และดุดันอย่างไม่มีลดลาวาศอกเหมือนเช่นเคย

 

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44 มิลลิเมตร

กลไก : IWC Calibre 69380 Automatic
ฟังก์ชัน : Time, Day-Date, 12-Hour Chronograph
กันน้ำลึก : 60 เมตร
ราคา : 363,800 บาท

---

5. Tudor Black Bay Pro

แม้จะมีการดีไซน์ที่แปลกตาออกไป และโฉมนั้นคล้ายคลึงกับ Rolex Explorer II Reference 1655 แต่เจ้า Tudor Black Pro ก็ยังคงความหล่อเหลาตามสไตล์สายดำน้ำ บนบอดี้ทะมัดทะแมงขนาด 39 มม. ล่ำบึก 15 มม. คงลุควินเทจด้วยชุดเข็มบอกเวลาทรง Snow Flake ที่ยกมาจากนาฬิกาดำน้ำยุค 1960s ของแบรนด์ รวมถึงเข็ม GMT สีเหลือง บอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง และไทม์โซนที่ 2 เมื่อรวมฟังก์ชันการใช้งานแสนง่ายดาย และราคาที่สมเหตุสมผล เจ้านี่น่าจะถูกยกให้เป็นอีกหนึ่งพิมพ์นิยมของแบรนด์ในอนาคตชัวร์ๆ

 

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 39  มิลลิเมตร

กลไก : Tudor MT5652 automatic
ฟังก์ชัน : Time, Second Time Zone
กันน้ำลึก : 200 เมตร
ราคา : 136,000 บาท

 

• Facebook
• Twitter
• Line