ในบรรดานักกีฬาที่ทำหน้าที่เป็นทูตของแบรนด์ดัง ราฟาเอล นาดาล-นักเทนนิสที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ของโลก เป็นคนหนึ่งที่กลายเป็นข่าวดังเมื่อสวมนาฬิกาแบรนด์ของสปอนเซอร์ ราคาสูงลิบลิ่ว นั่นคือ RM027 ของ Richard Mille มูลค่าประมาณ 800,000 ยูโร หรือกว่า 26 ล้านบาท เมื่อตอนลงสนามเฟรนช์ โอเพนเมื่อช่วงกลางปี 2019 จนสามารถคว้าถ้วยแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 12
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
ว่าแต่นาฬิกา Richard Mille เป็นแบรนด์ของใคร? จากไหน? และทั้งที่ไม่ได้มีประวัติเก่าแก่อย่างนาฬิกาแบรนด์หรูอื่นๆ แต่ทำไมถึงกลายเป็นที่กล่าวขานถึง ในเรื่องดีไซน์แหวกแนว หรือราคาที่แพงจัด
Crazy Dial อาสาพาไปรู้จักกับแบรนด์ Richard Mille กันครับ
Richard Mille เป็นนักธุรกิจสัญชาติฝรั่งเศส สำเร็จการศึกษาด้านการตลาดจากเบซองซอง จากนั้นออกมาทำงานกับบริษัทนาฬิกาอยู่หลายที่และหลายปี ก่อนตัดสินใจร่วมมือกับ Audemars Piguet (AP) จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนาฬิกาขึ้น โดยมีสำนักงานอยู่ที่เมืองเลส์ เบรอเลอซ์ ของสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากพัฒนาแบบอยู่นานสามปี ในปี 2001 ผลงานนาฬิกาชิ้นแรก RM001 ภายใต้แบรนด์ Richard Mille ก็ปรากฏสู่ตลาด เป็นงานสร้างสรรค์เริ่มแรกที่ค่อนข้างผิดแผกไปจากธรรมเนียมปฏิบัติ ถึงขั้นไม่เป็นที่ยอมรับ แต่เขาก็สามารถผ่านบททดสอบเหล่านั้นมาได้ ทุกวันนี้ดีไซน์ที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนและล้ำสมัยของนาฬิกา Richard Mille กลายเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกแล้ว
ดีไซน์ที่ล้ำสมัยของนาฬิกา Richard Mille มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวต่างๆ ในจำนวนนั้นมีกีฬารถแข่ง และฟอร์มูลา 1 ที่มีส่วนสำคัญในงานออกแบบ รูปแบบของหลายรุ่นมีหน้าปัดรูปหัวกะโหลก และการออกแบบภาพโดยรวมแนวอนาคตของนาฬิกา มีส่วนสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ รวมถึงการใช้วัสดุแปลกใหม่ในการผลิต ยังทำให้นาฬิกา Richard Mille มีความแตกต่างจากนาฬิกาหรูแบรนด์อื่นๆ และทุกวันนี้กลายเป็นหนึ่งในบรรดาแบรนด์ชั้นนำไปแล้วด้วย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Richard Mille ครอบคลุมทั้งนาฬิกาสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย หลากหลายรุ่น ตอบสนองความต้องการสูงสุดในด้านรูปแบบและฟังก์ชัน ลูกค้าคนดังของแบรนด์นี้ นอกเหนือจากราฟาเอล นาดาลซึ่งทำหน้าที่เป็นทูตประจำแบรนด์ Richard Mille มานานหลายปีแล้ว ยังมีดาราดังอย่าง นาตาลี พอร์ตแมน และเฉินหลง หรือนักแข่งรถแรลลี-เซบาสเตียน เลิบ และนักแข่งฟอร์มูลา 1-โรเมน กรอสจีน
นาฬิกาข้อมือ Richard Mille สำหรับผู้ชายมีหลายคอลเล็กชันให้เลือก ที่โดดเด่นอย่างเช่น รุ่น RM011 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยานยนต์ที่โฉบเฉี่ยว และอากาศพลศาสตร์ของฟอร์มูลา 1 ผ่านการทดสอบอย่างถี่ถ้วนมาแล้วจากทีม Lotus ในสนามแข่งทั่วโลก
รุ่น RM63-01 Dizzy Hands ได้แรงบันดาลใจด้านศิลปะ เช่นบทกวีของเจรารฺด์ เดอ แนร์วัล ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเวลา ตัวเรือนสะท้อนถึงผลงานชิ้นเอกของนาฬิกาชั้นสูงที่เคลือบด้วยอารมณ์สนุกสนาน และมีฟังก์ชันที่เรียบง่าย ด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวก็สามารถเห็นความเคลื่อนไหวของคริสตัลแซฟไฟร์และหน้าปัด
รุ่น RM61-01 เป็นงานออกแบบเพื่อแสดงความเคารพต่อโยฮัน เบรก นักวิ่งชายที่ได้ชื่อว่ารวดเร็วที่สุดอันดับสองของโลก นาฬิการุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับสีสันประจำชาติของจาไมกา ในโทนสีเขียวและเหลือง
รุ่น RM60-01 โดดเด่นด้วยความซับซ้อนของกลไกที่ชาญฉลาด และเป็นกลไกโครโนกราฟ Regatta Flyback ทั้งยังมี RM59-01 Yohan Blake Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ ออกแบบให้โดดเด่นด้วยสีและรูปทรงแอโรไดนามิก
ส่วน RM58-01 World Timer – Jean Todt เป็นนาฬิกาอีกรุ่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางท่องโลก เพราะเป็นนาฬิกาที่ช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้น สะดวกขึ้นกับการบอกเวลาของโซนต่างๆ ได้ทั่วโลก
นาฬิกา Richard Mille ได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาแพงอันดับต้นๆ ของโลก มีราคาเริ่มต้นเหยียบล้านบาท คำตอบอยู่ที่ความเป็นนักการตลาด และประสบการณ์ในแวดวงนาฬิกามานานปีของผู้ก่อตั้งแบรนด์นั่นเอง
การเข็นแบรนด์ใหม่ให้เป็นติดตลาดและเป็นที่ยอมรับเท่าเทียมกับแบรนด์ดังไม่ใช่เรื่องง่าย Richard Mille จึงจำเป็นต้องทุ่มเททั้งความคิดและการลงทุนไปกับนวัตกรรม เทคโนโลยี รวมถึงวัสดุที่แปลกใหม่ ในจำนวนนั้นมีไทเทเนียม, Carbon TPT และ Graph TPT ที่มีน้ำหนักเบากว่าเหล็กถึง 6 เท่า แต่แข็งแกร่งกว่า 200 เท่า หรือวัสดุอื่นๆ อย่างท่อนาโนคาร์บอน, ซิลิคอนไนไตรด์ และวัสดุที่คนทั่วไปไม่คุ้นเคยอีกมาก เพียงเพื่อต้องการให้ตัวเรือนนาฬิกามีความเบา และทนทาน
จากนั้นก็ชู ‘ความแพง’ ของผลิตภัณฑ์เป็น ‘จุดขาย’ อย่างมีเหตุผลนั่นเอง

Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial

Line :
Instagram :
Facebook :
Website :
Youtube :
Tiktok :