เลือกไซส์ที่ใช่ ใส่ดูดีชัวร์ๆ

• Facebook
• Twitter
• Line

เรื่องขนาดใครว่าไม่สำคัญ อย่างคิดลึกไปไกล เรากำลังหมายถึงนาฬิกาหรูเพียงอย่างเดียว(จริงๆ นะ) ไม่ว่าจะเป็นขนาดของเคส ความหนา สาย และข้อมือ หากทั้งหมดเข้ากันจะกลมกล่อม มองไปเหลี่ยมไหน มุมใด ก็สวยสะดุดสะกดทุกสายตา เพอร์เฟ็กต์สุดๆ

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

เคล็ดลับ #1 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเคส

ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเคสหรือตัวเรือนทั้งหมด เป็นหน้าเป็นตาของหมู่บ้านนาฬิกาหรู เนื่องจากมีสัดส่วนเฉพาะตัวและเป็นจุดปะทะสายตาต่อผู้พบเห็น ขนาดสำหรับสุภาพบุรุษมีตั้งแต่ 38 มม. ไปถึง 46 มม. ขณะที่สุภาพสตรีอยู่ที่ 30 มม. ไปถึง 42 มม. ตามหลักสากลแล้วตัวเรือนหน้าใหญ่กว่า 46 มม. ถือเป็นโอเวอร์ไซส์ ผู้ใส่มักอยู่ในกลุ่มไลฟ์สไตล์เว่อร์วัง แฟชั่นจ้านจัด (Conor Mcgregor หรือ Jay-Z เป็นตัวอย่าง) ส่วนตัวเรือนหน้าเล็กต่ำกว่า 38 มม. มักเข้ากันดีกับสุภาพสตรีเป็นที่สุด

 

คำถามแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าขนาดไหนเหมาะกับคุณๆ ทั้งท่านชายหญิง คำตอบง่ายๆ ก็วัดข้อมือดูสิ

 

หาสายวัดพันรอบข้อมือ แล้วยึดมติตามสูตรนี้

 

เส้นรอบวงข้อมือ : 6 ถึง 7 นิ้ว = ข้อมือขนาดเล็กถึงกลาง แมทช์กับ 38 มม., 40 มม. และ 42 มม.
เส้นรอบวงข้อมือ : 7.5 ถึง 8 นิ้ว = ข้อมือขนาดใหญ่ แมทช์กับ 44 มม. และ 46 มม.

 

เคล็ดลับ #2 ความหนาของตัวเรือน

ย้อนกลับไปเมื่อคราวนาฬิการะบบกลไกครองตลาด เป็นที่รับรู้กันว่าตัวเรือนบางกว่ามักคุณภาพสูงกว่า แต่ 2023 นี้เลิกคุยถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์และควอตซ์ เพราะสุดเอาท์ ณ ขณะจิตนี้ ความหนาของตัวเรือนมีความสัมพันธ์กับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างขาดกันไม่ได้ กฎโลกนาฬิกาหรูทั่วไปคือ เมื่อเส้นผ่านศูนย์กลางเคสเพิ่มขึ้นความหนาก็จะเพิ่มตาม โดยปกติเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มม. ถึง 42 มม. มักมีความหนาประมาณ 7 มม. เมื่อหน้าใหญ่ขึ้นขนาด 44 มม. ขึ้นไป ความหนาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 9 มม. นี่เป็นเหตุผลที่ว่านาฬิกาหรูเรือนใด ที่อัดแน่นไปด้วยวิศวกรรมเวลาชั้นสูง มาพร้อมหน้าใหญ่ใจถึง เข้าคู่หุ่นลีนบางเบา จึงมักมีดีกรีติดรางวัลอวดโลกอยู่เสมอ

 

เคล็ดลับ #3 ความกว้างของสาย

นาฬิกาสมส่วนความกว้างของสายมักยาวประมาณครึ่งหนึ่งของเส้นผ่านศูนย์กลางเคส เช่น หากคุณสวมนาฬิกาขนาด 40 มม. ความกว้างสายที่คู่ควรต้องอยู่ประมาณ 20 มม. ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวแปรคือสไตล์ของผู้สวมใส่เป็นหลัก จึงไม่จำเป็นต้องยึดกฎนี้ตายตัว บางทีคุณอาจต้องการสายที่กว้างน้อยกว่าหากข้อมือเล็ก หรือหากข้อมือใหญ่ อาจพิจารณาความกว้างจากมาตรฐานนี้เพิ่มเติม กรณีคุณมีเพียงเคส และต้องการใส่สายภายหลัง สามารถเลือกตามความกว้างของขานาฬิกาได้เลย

 

เคล็ดลับ #4 วัสดุของสาย

เหมือนไม่เกี่ยว แต่มีเอี่ยวโดยตรงสำหรับวัสดุของสายแต่ละชนิด โปรดใส่ใจและจำไว้ว่า ความต่างของวัสดุมีผลต่อความรู้สึก เพราะสายหนังทำให้นาฬิกาดูเพรียวบางยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับสายโลหะขนาดความกว้างเท่าๆ กัน เนื่องจากธรรมชาติของโลหะ มอบความรู้สึกหนักและใหญ่กว่าเสมอ ทำให้เป็นตัวเลือกหลักสำหรับสุภาพบุรุษข้อมือใหญ่ๆ เหล่านี้จึงถือเป็นข้อพิจารณาสำคัญห้ามละเลย หากอยากใส่แล้วดูดีชัวร์ๆ

 

เคล็ดลับ #5 รายละเอียดของนาฬิกา

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือการดูองค์ประกอบทุกอย่างต้องกลมกล่อม ไม่ว่าจะรายละเอียดงานดีไซน์บนหน้าปัด ตัวเลข ชั่วโมง และเข็มวินาที ขนาดขา เม็ดมะยม ปุ่มจับเวลา และหน้าปัดย่อยแสดงฟังก์ชันต่างๆ เพราะองค์ประกอบเหล่านี้หากมีขนาดและความหนา จะลวงตาทำให้นาฬิกาเหมือนใหญ่ขึ้น เกิดความไม่สมส่วนได้ เช่น หากคุณมีนาฬิกาขนาด 38 มม. ถึง 40 มม. และตัวเลขมีขนาดใหญ่ นาฬิกาจะดูไม่สมดุล ในทางกลับกัน หากคุณมีนาฬิกาหนา 9 มม. พร้อมเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 46 มม. และเข็มชั่วโมงแบบบาง อาจดูเพี้ยนไปนิด เป็นต้น

 

เคล็ดลับ #6 น้ำหนัก

น้ำหนักนาฬิกาเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาร่วมด้วย ทั่วไปนาฬิกาน้ำหนักมากกว่ามักมีความทนทานและให้ความรู้สึกเรื่องคุณภาพสูงกว่า แต่อาจทำให้รู้สึกไม่สบายข้อมือเวลาสวมใส่ กลับกันนาฬิกาเบาสวมใส่สบาย อาจมีความทนทานหรือคุณภาพไม่เท่านาฬิกาน้ำหนักมากกว่าเช่นกัน ดังนั้น ท้ายสุดแล้ว การเลือกน้ำหนักนาฬิกาที่เหมาะสม ย่อมขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและความต้องการด้านไลฟ์สไตล์เป็นหลัก หากคุณกำลังมองเรือนเวลา ใช้งานยาวนานกว่าและคุณภาพสูง การเลือกนาฬิกาประเภทเฮฟวีเวท อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

• Facebook
• Twitter
• Line