8 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ BASELWORLD

• Facebook
• Twitter
• Line

อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงอีเว้นท์ใหญ่ งานนาฬิกาที่ทุกคนรอคอย ใครที่อยู่ในแวดวงหรือสนใจเกี่ยวกับนาฬิกาและเครื่องประดับระดับโลก ต้องรู้จัก ‘บาเซลเวิลด์’ (Baselworld) ว่าคืออะไร และมีความหมายอย่างไร

คราวนี้ Crazy Dial ขออาสาพาคุณไปทำความรู้จักบาเซลเวิลด์ในมิติต่างๆ ที่เราคิดว่าคนรักนาฬิกาควรรู้…ตามกันมาได้เลยครับ

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

บาเซลเวิลด์คืออะไร?

บาเซลเวิลด์ คืองานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจัดขึ้นราวช่วงปลายเดือนเมษายนของทุกปี ที่เมืองบาเซล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

บาเซลเวิลด์มีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

งานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับในเมืองบาเซลจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1917 ในรูปแบบของนิทรรศการแสดงงานต้นแบบ และใช้ชื่องานว่า Basler Mustermesse โดยจัดกันอยู่ภายในศาลาขนาดเล็ก กระทั่งปี 1963 มีการย้ายสถานที่จัดงานไปแห่งใหม่ และปี 1972 ได้เปิดให้บริษัทต่างชาติเข้าร่วมแสดงสินค้า ซึ่งครั้งนั้นประกอบด้วยบริษัทต่างๆ จากเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ และอิตาลี ต่อมาปี 1983 เริ่มใช้ชื่องานแสดงว่า ‘BASEL 83’ จากนั้นก็เปลี่ยนไปตามเลขปีคริสตศักราช จนถึงปี 2003 ได้เปลี่ยนชื่องานมาเป็น ‘Baselworld’ จวบถึงปัจจุบัน

บาเซลเวิลด์มีความสำคัญอย่างไร?

เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้เจ้าของแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นนำของโลกได้นำเสนอคอลเล็กชั่นใหม่ เปรียบเทียบได้กับ Detroit Auto Show หรือ Paris Fashion Week แต่ที่บาเซลเวิลด์เป็นการแสดงรูปโฉมนาฬิกาและเครื่องประดับใหม่ เป็นการนำเสนอดีไซน์ และนวัตกรรมประจำปีของแบรนด์ต่างๆ

มีแบรนด์ใดบ้างที่เข้าร่วมในงาน?

นาฬิกาแบรนด์หรูชั้นนำที่เข้าร่วมในงานบาเซลเวิลด์ ได้แก่ Rolex, Omega, TAG Heuer, Breitling, Patek Philippe และ Breguet รวมทั้งเครื่องประดับชั้นนำและห้องเสื้อแฟชั่นระดับแนวหน้าของโลกที่มีอิทธิพลด้านนาฬิกา เช่น Chopard, Harry Winston, Bvlgari, Louis Vuitton, Chanel, Gucci และ Dior นอกจากนั้นยังมีบริษัทที่จัดหาผู้ผลิตด้วยเช่นกัน ส่วนแบรนด์ดังอื่นๆ อาทิ Cartier, IWC, Jaeger-LeCoultre, Panerai และบริษัทเครือ Swatch Group ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมงานบาเซลเวิลด์นั้น เป็นเพราะต่างมีงานแสดงสินค้านาฬิกาและเครื่องประดับของตัวเองที่เรียกว่า Salon International de la Haute Horlogerie หรือ SIHH ซึ่งจัดขึ้นทุกปีเช่นกันที่เมืองเจนีวา และมีกำหนดจัดกันก่อนหน้างานบาเซลเวิลด์ 

พื้นที่งานบาเซลเวิลด์ใหญ่แค่ไหน?

ในปีก่อนๆ บาเซลเวิลด์เคยใช้พื้นที่ถึงราว 1.5 ล้านตารางฟุตในการจัดงาน แม้ปัจจุบันพื้นที่งานจะมีขนาดเล็กลง แต่ก็ยังต้องใช้รถบรรทุกมากกว่า 7,000 คัน เพื่อขนส่งวัสดุและสินค้าน้ำหนักนับหมื่นตันที่ส่งมาจากทั่วโลก มีการใช้คนงานมากกว่า 20,000 คน และใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ในการจัดพื้นที่แสดงทั้งหมด จากเดิมที่เคยมีบริษัทเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าถึง 2,000 รายก่อนปี 2009 ปัจจุบันยังมีบริษัทเข้าร่วมงานอยู่ราว 600-700 บริษัท พื้นที่จัดแสดงของบาเซลเวิลด์สามารถรองรับผู้เข้าชมและสื่อมวลชนได้กว่า 150,000 คน

งานบาเซลเวิลด์เปิดเป็นสาธารณะหรือไม่?

คุณสามารถซื้อตั๋วเข้างานได้ที่หน้างาน หรือสามารถซื้อล่วงหน้าได้ทางออนไลน์ ปัจจุบันค่าธรรมเนียมเข้าชมอยู่ที่ 60 สวิสฟรังก์สำหรับตั๋วหนึ่งวัน และ150 สวิสฟรังก์สำหรับเข้าชมการจัดแสดงแบบเต็มรูปแบบ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลผ่านแอพลิเคชัน ทั้งระบบ iOS และ Android หรือจากเว็บไซต์ของบาเซลเวิลด์: https://www.baselworld.com/

10 นาฬิกาเร้าใจในบาเซลเวิลด์ปี 2019 มีอะไรบ้าง?

Patek Philippe 51272G, Breitlings Navitimer Ref.8061959 Re-Edition, Chanel J12, Hublot Classic Fusion GT, Chronoswiss Flying Grand Regulator, Bvlgari Octo Finissimo Chrono, Frederique Constant Slimline Power Reserve, Nomos Tangente Sport Neomatik & Club Sport Neomatik และ Rolex Yacht-Master 42

สามารถซื้อนาฬิกาที่งานบาเซลเวิลด์ได้หรือไม่?

ตลอดเวลาที่ผ่านมา บาเซลเวิลด์เป็นงานจัดแสดงเพื่อให้เข้าชมนาฬิกาและเครื่องประดับต่างๆ เท่านั้น แต่สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคอลเล็กชั่นต่างๆ จากพนักงานประจำบูธได้ และสามารถสั่งจองสินค้าหลังจากการเข้าชมงานกับพนักงานที่ดูแลได้เช่นกัน แต่คอนเส็ปต์ใหม่นับแต่ปี 2020 บาเซลเวิลด์จะปรับจากงานแสดงแบบคลาสสิกสู่เวทีประสบการณ์ และยังเปิดกว้างสำหรับลูกค้าปลายทางอีกด้วย

            ปี 2020 นี้ บาเซลเวิลด์จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายนถึง 5 พฤษภาคม

คอนาฬิกาตัวจริงอาจต้องเตรียมตัวไปแสดงหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง หรือไม่ก็รออัพเดตข่าวสาร ซึ่ง Crazy Dial พร้อมจะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง บอกเล่าข้อมูลให้ ก็ต้องติดตามกันนะครับ

• Facebook
• Twitter
• Line