ปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ถือว่าตลาดนาฬิกาหรูทั่วโลกยังคงคึกคักอยู่พอควร เมื่อเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจที่เข้าโหมดหนืดมาพักใหญ่ Morgan Stanley บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก ได้จัดทำรายงาน LuxeConsult เปิดเผยข้อมูลผลประกอบการของบรรดานาฬิกาแบรนด์หรู ที่มีสายการผลิตเฉพาะในสวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 2019 และ Crazy Dial นำมาบอกกล่าวต่อกันว่า แบรนด์ไหนบ้างที่มียอดขายติดอันดับท็อป 8 จากการสำรวจ เรามาดูกัน…
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
อันดับ 1. Rolex 5,200 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 2. Omega 2,355 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 3. Cartier Watches 1,837 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 4. Longines 1,650 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 5. Patek Philippe 1,450 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 6. Audemars Piguet 1,180 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 7. Tissot 1,020 ล้านฟรังก์สวิส
อันดับ 8. Richard Mille 900 ล้านฟรังก์สวิส
นอกจากจะรายงานเป็นตัวเลขยอดขายแล้ว ในรายงาน LuxeConsult ของ Morgan Stanley ยังลงลึกไปถึงส่วนแบ่งทางการตลาด ถอดรหัสเป็นตัวเลขแจ้งเปอร์เซ็นต์ไว้เป็นฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็นไกด์ที่ดี มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักสะสม นักลงทุน และผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสไตล์ลักชัวรีแบรนด์
Rolex มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 23.4%
Omega มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 8.5%
Longines มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 6.6%
Patek Philippe มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 6.1%
Carter Watches มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 5.5%
Audemars Piguet มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 4.4%
Tissot มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 4.0%
Richard Mille มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 1.8%
และข้อมูลอีกส่วนที่จำเพาะเจาะจงและน่าสนใจเป็นอย่างมาก กล่าวถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของยอดขายจากปี 2018 คาบเกี่ยวปี 2019 นั่นคือ ส่วนใหญ่แล้วมาจากผู้ประกอบการร้านค้าสไตล์บูทีคลักชัวรีแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลก มูลค่าการค้าปลีกเหล่านี้เป็นขุมพลังสำคัญที่ทำให้ยอดขายอยู่ในระดับน่าประทับใจ แบรนด์พรีเมียมอย่าง Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet และ Richard Mille มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 8.7 พันล้านฟรังก์สวิส สะท้อนข้อเท็จจริงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถทำส่วนแบ่งทางการตลาดไปได้ถึง 35% และนั้นคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้แบรนด์ระดับแชมป์เหล่านี้ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายและผลกำไรมหาศาล
ทุกวันนี้สวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้เป็นฐานการผลิตเฉพาะของนาฬิกาบิ๊กเนมเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นฐานการผลิตของแบรนด์นาฬิการายย่อยอีกนับร้อยนับพันเช่นเดียวกัน ซึ่งแบรนด์ย่อยเหล่านี้มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 21.3% เพียงเท่านั้น และจากข้อมูลใน LuxeConsult ที่ Morgan Stanley ขยันทำการบ้านเก็บข้อมูล ยังคาดการณ์อนาคตหลังปี 2020 ด้วยว่า ผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ย่อยเหล่านั้นอาจต้องปรับตัวเตรียมตั้งรับไว้ให้ดี เพราะแบรนด์ที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ราว 30-60 แบรนด์ อาจจะมีโอกาสล้มได้หลังวิกฤตโรคระบาด Covid-19 สิ้นสุดลง
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว การตัดสินใจลงทุนในนาฬิกาแบรนด์หรู ที่มีสายพานการผลิตอันมั่นคงและมีชื่อเสียงมานานย่อมได้เปรียบมากกว่าในเวลานี้ แน่นอนว่าราคาอาจจะสูง แต่จากข้อมูลทั้งยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด ย่อมทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นการลงทุนอันคุ้มค่าแน่นอน
อ้างอิง:
https://watchesbysjx.com/2020/03/swiss-watch-industry-report-2020.html
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของแวดวงนาฬิกาได้ที่นี่…
Crazy Dial – The Watch Community
Line : @crazydial
Instagram : crazydial.official
Facebook : crazydial.official
Website : www.crazy-dial.com
Youtube : Crazy Dial Official
Tiktok : crazydial
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial
