Audemars Piguet ทำยอดขายเหนือ Patek Philippe เป็นครั้งแรก

ในแง่การแข่งขันทางการตลาด การที่ Audemars Piguet แซงหน้า Patek Philippe นับว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ไม่น้อย และหากมองในเชิงลึกลงไปอีก คราวนี้อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตลาดนาฬิกาหรูระดับไฮเอนด์ก็เป็นได้

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

ยอดขายนาฬิกาหรูระดับพรีเมียมแบรนด์ของสวิส แม้จะมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ แต่บิ๊กเนมอย่าง Rolex ยังคงครองใจมหาชนคนทั่วโลกแบบไม่พลิกโผ ด้วยการเข้าวินทำยอดขายเป็นประวัติการณ์ที่ 8.05 พันล้านฟรังก์สวิส ในปี 2021 โดยมี Daytona และ Submariner เป็นกำลังสำคัญ ขึ้นแท่นตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 29% โดยมี Cartier รั้งอันดับ 2 ตามมาด้วย Omega ในอันดับที่ 3 ทางด้าน Audemars Piguet เข้าป้ายอันดับ 4 ถัดมาที่ Longines อันดับ 5 ตบท้ายด้วย Patek Philippe และ Richard Mille ในอันดับที่ 6 และ 7

 

รายงานของ Morgan Stanley ฉายภายกว้างให้เห็นชัดเจนขึ้น กลุ่มผู้ซื้อกระเป๋าหนักที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ในทางกลับกันวิกฤตดังกล่าวทำให้พวกเขาต้องยกเลิกแผนการเดินทางท่องเที่ยว เสมือนกับว่าได้ประหยัดเงินก่อนโตไปโดยปริยาย เม็ดเงินดังกล่าวจึงไหลเข้าไปยังตลาดนาฬิกาหรูอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้ยอดขายนาฬิการะดับไฮเอนด์ฟื้นตัวกลับมาคึกคัก กรณีของแบรนด์ Rolex กับยอดขายที่น่าทึ่งเป็นข้อยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

 

รายงานของ Morgan ยังแสดงให้เห็นอีกว่าผู้ซื้อนาฬิกาหรูให้ความสนใจในแบรนด์ชั้นนำเพียงเท่านั้น และนาฬิกาที่มีราคาสูงกว่า 3,000 ฟรังก์สวิส สามารถสร้างยอดขายรวมแล้วคิดเป็น 73% ของส่วนแบ่งการตลาด ยอดขายของ Cartier ก็เพิ่มขึ้น ที่ 40% เช่นกัน สำหรับ Omega  ก็เร่งขยับยอดขายได้อย่างน่ายินดี หลังจากที่เคยสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดมาหลายปีก่อนหน้านี้ ต่างกับ Tissot, Hamilton และ Mido ส่วนแบ่งการตลาดลดลงเหลือตัวเลขที่ 22% ในปี 2021 ทีผ่านมา

 

ไฮไลท์ของรายงานฉบับนี้อยู่ที่ Audemars Piguet ซึ่งมียอดขาย 1.58 พันล้านฟรังก์สวิส (1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แซงหน้า Patek ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 1.53 พันล้านฟรังก์สวิส โดยยอดขายที่ Piguet เฉือน Patek ไปได้นั้น กูรูแห่ง Luxe Consult ได้วิเคราะห์ไว้ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของรุ่น Royal Oak ที่จะมาถึงในปี 2022 เป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดขายของ Audemars Piguet เบียดแซงยอดขายของ Patek Philippe ไปได้เป็นครั้งแรก

 

ในมุมของแบรนด์ Patek Philippe หากไม่นับประเด็นครบรอบ 50 ปีของ Royal Oak ที่ทำให้ยอดขายแซงหน้าพวกเขา ตัวเลขและสัญญาณก่อนหน้านี้ ก็เป็นอะไรที่ต้องคิดมากเหมือนกัน เดิมที Patek เป็นรองเพียงแค่ Rolex และยึดอันดับสองตลอดมา กระทั่งปี 2020 ยอดขายของพวกเขาร่วงลงมาที่อันดับ 4 และในปี 2021 ยังร่วงต่อเนื่องมาจนถึงอันดับ 6 ความจริงที่ว่าราคาขายปลีกเฉลี่ยโดยประมาณของ  Patek Philippe ดูเหมือนจะลดลงจาก 35,194 ฟรังก์สวิส (37,965 ดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2020 เป็น 29,853 ฟรังก์สวิส (32,200 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ

 

สัญญาณทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมนาฬิกาหรูกำลังฟื้นตัวกลับมาคึกคักอีกครั้ง ศักยภาพการผลิตในวิกฤตไวรัสระบาดครั้งใหญ่กลายเป็นแต้มต่อสำคัญของแต่ละแบรนด์ และความสำคัญของตัวแทนผู้ค้าปลีกทั่วโลกก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม Rolex ยังคงเป็นต้นแบบและเป็นตัวอย่างได้เสมอ พวกเขาแข็งแกร่งอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ที่ผ่านมาแบรนด์ในตำนานเร่งการผลิตนาฬิกาได้มากว่า 1,000,000 เรือน  ในขณะที่ Cartier เพิ่มการผลิตขึ้น 22% จาก 490,000 เรือน เป็น 600,000 เรือนในปี 2021 ต่างจาก Omega ที่ผลิตนาฬิกาเพิ่มขึ้นเพียง 14% จาก 500,000 เป็น 570,000 เรือน

 

กับกรณีของตัวแทนผู้ค้าปลีก มูลค่าการซื้อขายของ  Audemars Piguet  จากร้านบูติกที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถทำรายได้ถึง 75% ช่วยให้แบรนด์ยังคงรักษาอัตรากำไรของผู้ค้าปลีก และยังสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์มีความคล่องตัวในการบริหารสินค้าคงคลัง และหลีกเลี่ยงการสูญเสียยอดขาย เนื่องจากสินค้าหมดสต็อกในระยะเวลาที่นานเกินรอ

 


ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของแวดวงนาฬิกาได้ที่นี่…

Crazy Dial – The Watch Community

Line : @crazydial

Instagram : crazydial.official

Facebook : crazydial.official

Website : www.crazy-dial.com

Youtube : Crazy Dial Official

Tiktok : crazydial