ไม่อาจปฏิเสธ Watches & Wonders งานแสดงนาฬิกาหรูยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี แบบสิ้นสงสัย แต่ก็อย่าละความสนใจอีเว้นท์วัยเตาะแตะอย่าง Geneva Watch Days ไป โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่เพิ่งจบลงเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีตัวท็อปน่าจับตาอย่างไรบ้าง เราได้รวบรวม 10 โผ ให้คุณได้มองหน้าหาเรื่อง(ราว) พร้อมบวกไว้แล้ว
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
แฟ้มประวัติ Geneva Watch Days 2022 น้องใหม่ร้ายไม่เบา
ทุกอย่างเริ่มต้น จากการยกเลิกงานแสดงนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี Watches & Wonders และ Baselworld เมื่อ 27-28 กุมภาพันธ์ ปี 2020 เนื่องด้วยวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จึงจำเป็นต้องหารูปแบบการจัดงานที่เหมาะสมกับสถานการณ์โลกตอนนั้น
โรงแรม และพื้นที่ต่างๆ อันข้องเกี่ยวกับงานทั้งหมด ต่างถูกยกเลิกโดยทันที แต่ Jean-Christophe Babin ซีอีโอของ Bulgari มองต่างไปว่า แล้วเหตุใดจึงไม่ลองจัดงาน โดยไม่มีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างเคยๆ ใช้ต้นทุนต่ำลง แต่ยังเพียงพอต่อการโชว์ตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดในบูติค ห้องจัดเลี้ยง ห้องสวีทของโรงแรม หรือแม้แต่โรงงานในเจนีวา ซึ่งทั้งหมดดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของ WHO และ Federal Council ตามวิวัฒนาการของการระบาดของไวรัสโคโรนาดูบ้าง
เมื่อรวบรวมพาร์ทเนอร์แบรนด์ดังๆ ที่มีแนวทางตรงกันได้ จึงเปิดตัวกลุ่มแบรนด์ผู้ให้การสนับสนุนแนวคิดนี้ อาทิ Bulgari, Breitling, De Bethune, H. Moser & Cie, MB&F, Ulysse Nardin และ Urwerk Maisons ทำให้ Geneva Watch Days เปิดฉากขึ้นเฉพาะทางออนไลน์ในปี 2020 และเริ่มเปิดแบบ on-site ครั้งแรกในปี 2021 และสำหรับปี 2022 ครั้งล่าสุด จึงเป็นการจัดงานแบบ on-site ครั้งที่สอง และเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของการจัดงานบนโลกนาฬิกาหรูที่ต่างไปอีกครั้งหนึ่ง
10 ตัวท็อป Geneva Watch Days 2022
1. DOXA – Army
แบรนด์รับใช้สวิสอาร์มี่มาตั้งแต่ปี 1968 ต่อยอดรุ่น Sub 300 ของเหล่ายอดหน่วยรบมนุษย์กบ รูปแบบเซรามิกผลิตเพียง 100 เรือนเมื่อต้นปี โชว์ตัวอีกสองโฉม ได้แก่ ตัวเรือนสเตนเลสตีล หน้าปัดสีดำและครีม และสีบรอนซ์ฝังขอบเขียวเซรามิก
2. ORIS – Divers Sixty-Five
ทั้งท็อปทั้งฟีเวอร์มากในงาน จากการปรับเปลี่ยนให้ Divers Sixty-Five มาใช้ Calibre 400 ที่สามารถป้องกันสนามแม่เหล็กได้อัตโนมัติ จึงไม่จำเป็นต้องไขลานและยังคงเดินต่อเนื่องได้ถึง 5 วัน แม้ไม่ได้ใส่
3. ARNOLD & SON – Luna Magna Ultimate
ลิมิเต็ดเอดิชั่นผลิตเพียง 8 เรือน ตัวเรือนประดับด้วยเพชรคุณภาพสูงสองแถว น้ำหนักประมาณ 6 กะรัต ในขณะที่ดวงจันทร์ประดับด้วยเพชรและหินพาราอิบา 161 เม็ด ความแม่นยำสูง ต้องการเพียงรีเซ็ตระบบโคจรดวงจันทร์ทุกๆ 122 ปีเท่านั้น
4. ULYSSE NARDIN – Blast Tourbillon Rainbow
ตูร์บิยองอัตโนมัติมีเพียง 50 เรือน ประกอบด้วยโรเตอร์แพลทินัม หินมีค่า และตัวเรือนไทเทเนียม 45 มม. พร้อมฝาครอบเซรามิก ทั้งยังได้รับดีเอ็นเอจากรุ่น Freak ในการใช้ซิลิกอน ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อน มาใช้เป็นส่วนประกอบ
5. BULGARI – Octo Finissimo Sejima
สร้างสรรค์ขึ้นโดยความร่วมมือกับ Kazuyo Sejima สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น เกิดเป็นนาฬิกาบางเฉียบหนาเพียง 64 มม. ผ่านแนวทางการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ด้านการสร้างวัตถุที่มีลักษณะสะท้อนแสงคล้ายกระจกของเธอ
6. BULGARI – Octo Finissimo Skeleton 8 Days
แม้จะไม่ทำลายสถิติเหมือนเคยๆ แต่ก็ยังน่าประทับใจมากในความบางขนาด 5.95 มม. กลไกคาลิเบอร์อินเฮาส์ตัวใหม่สุด BVL199SK ซึ่งหนาเพียง 2.5 มม. ทำงานได้นาน 192 ชั่วโมง มาพร้อมตัวเรือนสีพิงค์โกลด์ 18 กะรัต แกะสลักสวยงามลงตัว
7. De Bethune – DB25sQP
วิวัฒนาการของปฏิทินถาวรจาก DB25 สู่ตัวเรือนใหม่ไทเทเนียมขนาด 40 มม. โดดเด่นด้วยผิวเคลือบ Flame Blued กงล้อตูร์บิยองน้ำหนักเบาที่สุดในโลกเพียง 1.6 กรัม และการแสดงข้างขึ้นข้างแรมรูปแบบสามมิติ
8. H. MOSER & CIE. – Streamliner Tourbillon Vantablack
ตัวเรือนและสายไร้รอยต่อ ทำจาก 5N เรดโกลด์ ซึ่งเหมือนกับสีโรสหรือพิงค์โกลด์ แต่มีทองแดงมากกว่าเล็กน้อย ทำให้ได้เฉดสีฉ่ำแดงก่ำ มีขนาด 40 มม. มาพร้อมคาลิเบอร์ HMC 804 Automatic Manufacturing สามารถสำรองพลังงานได้สามวัน
9. MB & F – Legacy Machine Split Escapement EVO Sky Blue
ถือเป็นรุ่นที่ห้าของซีรี่ส์ Legacy Machin ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โชว์วิศวกรรมเวลาเหนือๆ ด้วยตัวกลไกการแกว่ง Split Escapement, Flying Balance Wheel และปฏิทินถาวรตรงกลางด้านหน้าของหน้าปัดอย่างโดดเด่น
10. URWERK – UR-100V
ระบบแสดงเวลาจานดาวเทียมแบบเดียวกับ UR-100 ตัวเรือนไททาเนียมขัดแต่งผิวแบบ Sandblasted บนโฉมใหม่เฉดม่วงเคลือบ DLC (Diamond Like Carbon) ที่ได้แรงบันดาลใจจากความถี่สูงสุดของแถบสีสเปกตรัม ก่อนตาเปล่าจะมองไม่เห็น
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial