วอร์ชเลิฟเวอร์ไม่ควรพลาด ‘James Marsden’ รับบทช่างทำนาฬิกาในภาพยนตร์สั้นจาก IWC

ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นดาราฮอลลีวูดรับบทเป็นช่างทำนาฬิกา แม้ว่าฟังดูแล้วธรรมดาเหลือเกิน แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหานักแสดงชั้นนำของวงการมาเล่น รวมถึงโจทย์ใหญ่วิธีการเล่าเรื่อง ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถดึงความสนใจผู้ชมได้ และทันทีที่ ‘James Marsden’ มารับบทเป็น ‘Florentine Ariosto Jones’ ผู้ก่อตั้ง IWC ในซีรีย์ ‘Born of a Dream: A Man of the Future’ จึงเป็นอะไรที่วอร์ชเลิฟเวอร์อย่างเราๆ ต้องสนใจกันสักหน่อย แม้ว่าซีรีส์ชุดนี้จะเป็นรูปแบบภาพยนตร์สั้นก็ตามที

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

เอ่ยชื่อ James Marsden หลายคนอาจคุ้นชื่อคุ้นหน้าเป็นอย่างดี จากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น ‘The Notebook’ ‘X-Men the Siries’ ‘Hairspray’ ‘Enchanted’ หรือ ‘Dead to Me’ ของ Netflix เป็นต้น ครั้งนี้เจ้าตัวในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ IWC ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อถึงการรับบทบาทในครั้งนี้ รวมถึงอิทธิพลของเวลาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเขา

‘A Man of the Future’ จาก IWC เป็นส่วนเสริมของซีรีส์ ‘Born of a Dream’ ภายใต้ธีมหลักคือ การไล่ล่าความฝันของคนธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะต้องพบเจออุปสรรคและความยากลำบากขนาดไหนก็ตาม ซึ่ง F.A. Jones ถือเป็นตัวอย่างสำคัญ ผ่านการนำเสนอเรื่องราวของโจนส์ในวัยเยาว์ ภายใต้ฉากสงครามกลางเมือง พร้อมกับความฝันในการจะสร้างสรรค์แบรนด์นาฬิการะดับโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีเชิงวิศวกรรมของอเมริกัน มาผสานเข้ากับเทคนิคงานคราฟต์ของช่างนาฬิกาชาวสวิส ซึ่ง James Marsden สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ทั้งความตื่นเต้นและความกังวลใจ ออกมาได้อย่างเหมาะสมตลอดทั้งเรื่อง ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการทำนาฬิกาจากอเมริกาไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เขาต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมาย เช่น คำดูถูกจากชาวสวิสที่ไม่เชื่อฝีมือช่างชาวอเมริกัน และปัญหากับนักลงทุน รวมถึงการก่อตั้ง International Watch Company, IWC, และ Schaffhausen

“ปกติแล้วการทำงานร่วมกันของผมกับ IWC ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการแสดงหรือการสร้างภาพยนตร์สักเท่าไร ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีมาก ในการนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของ F.A. Jones และการก่อตั้ง IWC ให้คนทั้งโลกได้รับรู้” Marsden บอกกล่าว

“ในฐานะนักแสดง ผมแค่ต้องการเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่มีความน่าสนใจและทำให้ผมรู้สึกทึ่งเท่านั้น โดยส่วนตัว ผมหลงใหลในกระบวนการผลิตและงานฝีมือของช่างทำนาฬิกาอยู่แล้ว และเรื่องราวนี้กระแทกใจผมมากทีเดียว เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนต้องการไล่ตามความฝัน และหวังว่าจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ F.A. Jones  เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์และกล้าเดิมพันกับตัวเอง เมื่อต้องพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ มากมายที่เข้ามา ผมชอบธีมของเรื่องมาก นี่คือการเดินทางของชีวิตจริงๆ เราทุกคนจำเป็นต้องแสวงหาเส้นทางและสิ่งที่ตัวเองหลงใหล ต้องกล้าหาญ มุ่งมั่น ที่จะก้าวไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้”

Marsden ยังเผยอีกว่า ตัวเขาเองก็เป็นนักสะสมนาฬิกา และมีคอลเล็กชันเรียบง่ายส่วนตัวเก็บไว้ด้วย “ผมชอบจุดประสงค์ของนาฬิกาที่เป็นเครื่องมือบอกเวลา แต่ก็ยังมีความสง่างามและสวยงามร่วมอยู่ ตลอดจนความทุ่มเทในการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สิ่งพิเศษเกิดขึ้น ซึ่งผมชื่นชมจริงๆ”

ขณะที่นาฬิกาในคอลเล็กชันของเขาเมื่อสมัยเด็กๆ บางชิ้นมีราคาเพียง 30 เหรียญเท่านั้น “ตอนผมสะสมนาฬิกาเหล่านี้ เป็นเพราะบางเรือนเชื่อมโยงกับอดีตของผม แต่ละเรือนมีทั้งจิตวิญญาณของตัวเองและมีความแตกต่างกัน สำหรับผม มูลค่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของเงิน แต่เป็นเรื่องราวมากกว่า และหวังว่า สักวันหนึ่งผมจะได้แบ่งปันความหลงใหลเหล่านี้ให้กับลูกๆ และส่งต่อคอลเล็กชันของผมไปให้พวกเขา”

นับตั้งแต่มีลูก เขายอมรับว่ามีมุมมองเวลาที่ต่างออกไปจากเดิม “เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณจะเห็นคุณค่าเวลาในปัจจุบันมากขึ้น และเมื่อมีเด็กๆ เข้ามาในชีวิต ยิ่งทำให้ผมใส่ใจกับเวลาและวิธีที่จะใช้เวลาร่วมกับพวกเขาอย่างจริงจัง ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตตอนนี้คือความเสียใจ และความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่ผมมองเห็นคือ การพลาดโอกาสในการใช้เวลาร่วมกับคนที่รักและห่วงใย ถึงบางครั้งรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอ แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้” Marsden กล่าวทิ้งทาย

อย่างไรก็ตาม ‘Born of a Dream: A Man of the Future’ ไม่ใช่ภาพยนตร์สั้นเรื่องแรกที่ IWC ร่วมทุนสร้าง ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาทางแบรนด์ได้เปิดตัว ‘Born of a Dream: A Boy from San Mateo’ กล่าวถึงเรื่องราวของกองหลังในตำนาน ‘Tom Brady’ อีกหนึ่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ มาก่อนหน้านี้แล้ว

ใครสนใจเรื่องราวแบบนี้ก็อย่าลืมไปหาชมกัน บอกเลยว่า แม้จะเป็นภาพยนตร์สั้น แต่ทั้งเนื้อหา โปรดักชัน บวกกับฝีมือระดับฮอลลีวูดของ James Marsden ช่างสมศักดิ์ศรีความเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง IWC จริงๆ