Louis Moinet : Independent Brand ที่เปี่ยมด้วย Passion
ทีมงาน Crazy Dial ได้รับเกียรติจาก SHH Pendulum ให้เข้าร่วมงาน Exclusive Viewing Session ของแบรนด์นาฬิกาอิสระที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือแบรนด์ Louis Moinet
ที่เราเกริ่นว่า Louis Moinet มีความน่าสนใจเพราะว่าเป็นแบรนด์ที่คิดค้นกลไกโครโนกราฟที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งต้องย้อนไปจนถึงปีค.ศ. 1816 เลยทีเดียว และสิ่งที่เป็นตัวยืนยันก็คือการได้การรับรองจาก Guinness World Records นั่นเอง โดย Mr. Jean-Marie Schaller – Owner and Creative Director of Les Ateliers Louis Moinet ได้เล่าให้พวกเราฟังว่า ตัวท่านเองและภรรยาได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และเวลาในการค้นคว้าหาข้อมูลของ Louis Moinet มานาน เหมือนกับว่าเป็นพรหมลิขิตให้ชุบชีวิตเรื่องราวและแบรนด์ Louis Moinet ขึ้นมา
ตัดภาพมาจนถึงปัจจุบัน Louis Moinet มีนาฬิกาอยู่ 2 แกนหลัก ได้แก่ Mechanical Wonders เน้นเรื่องกลไกต่างๆและ Cosmic Art ที่รวบรวมชิ้นส่วนจากดวงดาวต่างๆ รวมไปถึงชิ้นส่วนของยานอวกาศเข้ามาบรรจุอยู่ในตัวเรือน !! (ซึ่งคุณ Jean-Marie ได้เก็บสะสมชิ้นส่วนดวงดาวและชิ้นส่วนยานอวกาศไว้เยอะมากจนเราถึงกับเอ่ยปากชื่นชมว่าเค้ามี Passion เรื่องนี้จริงๆ) โดยแต่ละปีจะผลิตนาฬิกาเพียง 500 เรือน ซึ่งแต่ละเรือนจะเป็นรุ่นพิเศษหรือรุ่นการผลิตแบบจำนวนจำกัดเท่านั้น และในงานนี้คุณ Jean-Marie และคุณ Mikella ภรรยาสุดน่ารัก ก็นำนาฬิกาเรือนที่น่าสนใจมากๆมาให้ทีมงาน Crazy Dial ได้สัมผัส ซึ่งเรารับรู้ได้ถึง Passion อันเปี่ยมล้นของทั้งคู่ที่มีต่อนาฬิกา เพราะทุกๆเรือนนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความคลั่งไคล้และความกล้าที่จะออกจากกรอบเป็นอย่างยิ่ง
ASTRONEF ART-TECH
ทีมงานเราเคยสัมผัสเรือนจริงและประทับใจกับรุ่น ASTRONEF ที่มีกลไก Tourbillon 2 ชิ้นหมุนสวนทางกันมาแล้ว และเราก็เคยเห็นภาพของรุ่น ART-TECH TOURBILLON ที่เป็น Unique timepiece เข้าร่วมงานประมูล Only Watch ในปีนี้ ซึ่งจุดเด่นคือหน้าปัด ART_TECH ที่ผลิตจาก Microelectronic Silicon Wafer ที่เราอาจจะเคยเห็นในแวดวง IT ที่ใช้วัสดุประเภทนี้นี้ในการผลิตชิพคอมพิวเตอร์ นำมาใช้กับหน้าปัดนาฬิกาเราก็จะเห็นถึงสีสันที่มีความแตกต่างในแต่ละมุมมอง และเรือนที่คุณ Jean-Marie นำมาให้พวกเราได้ยลโฉมก่อนใครเรือนนี้เป็นการรวมสองความเจ๋งมาไว้ด้วยกัน เราเลยขอเรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการด้วยเราเองว่า ASTRONEF ART-TECH เรียกได้ว่าเป็นการผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ในเรือนนี้
SAVANNA TOURBILLON
ความพิเศษอยู่ที่หน้าปัดที่ถูกออกแบบและบรรจงสร้างให้เป็นจิ๊กซอว์สามมิติ โดยในแต่ละรูปจะเป็นตัวจิ๊กซอว์ที่นำมาประกอบกันมากถึง 81 ชิ้น เรียกว่าทำเรือนนี้มาเพื่อโชว์ความ Craftmanship กันเลยทีเดียว และที่ทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นก็คือคอลเลคชั่นนี้มีเพียง 5 เรือนเท่านั้น! โดยหน้าปัดจะต่างกันไปในแต่ละเรือน คือ แพนด้า, เสือโคร่ง, เสือดาว, ช้าง และสิงโต (แอบกระซิบให้ฟังว่าเสือดาวและสิงโตมีเจ้าของจับจองกันไปแล้วนะครับ) และเรือนนี้ยังได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GPHG 2023 อีกด้วย
TEMPOGRAPH SPIRIT
เรือนนี้เป็นการออกแบบที่โชว์กลไกและมาพร้อมกับฟังก์ชั่น 20- second retrograde ในตำแหน่งขวาบนที่ปกติจะเป็นหลักชม. 1 และ 2 โดยกลไก 20 second retrograde คือเข็มวินาทีจะเดินไปจนครบ 20 วิแล้วตีกลับมาตำแหน่งเริ่มต้น และในตำแหน่ง 8 นาฬิกาจะโชว์กลไกที่สอดคล้องกับ Retrograde ให้เห็นกันจะๆว่าดีดกลับยังไง ขอบอกว่าทีมงานเรานั่งดูกลไกนี้กันเพลิดเพลินมากกกก พ่วงด้วยรางวัล iF Design Award 2023 อีกหนึ่งเรือน
JULES VERNE TOURBILLON
ได้แรงบันดาลใจมาจากนักเขียนนิยายไซไฟชื่อก้องโลกอย่าง Jules Verne ที่มีผลงานขึ้นชื่ออย่างใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ (Twenty Thousand Leagues under the Sea) และ 80วันรอบโลก (Around the World in Eighty Day) เรือนนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดแกะสลัก peripheral guilloché (เพอริเฟอรัล กิโยเช่) มาพร้อมกลไก Flying Tourbillon ที่ดูแล้วเพลิดเพลินตาเช่นกัน โดยคอลเลคชั่นนี้แบ่งเป็น 3 รุ่นได้แก่ To The Moon หน้าปัดสีเขียวซึ่งความพิเศษจะอยู่ตรงกลางเพราะเป็นชิ้นส่วนของดวงจันทร์!! โดยมีทั้งหมด 8 ชิ้นให้เลือก (กระซิบอีกรอบว่ามีเจ้าของไปแล้ว 3 เรือนนะครับ!) แต่ในงานนี้เราได้มีโอกาสสัมผัสรุ่นที่มีชื่อว่า Under The Sea ที่แกะสลักสีน้ำเงินเหมือนท้องทะเล และตรงกลางประดับด้วย อัญมณีโอปอล์ และรุ่นสุดท้ายที่เรายังไม่ได้มีโอกาสสัมผัสคือรุ่น Mystery Island ที่หน้าปัดแกะสลักสีส้ม และตรงกลางประดับด้วยอัญมณี ลาพิส ลาซูลี (lapis lazuli)
นอกจากเรือนเวลาน่าสนใจด้านบนนี้แล้ว Louis Moinet ยังมีรุ่นที่น่าสนใจอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Impulsion ที่มีทั้งกลไกโครโนกราฟและทูร์บิญองในเรือนเดียว, Time To Race ที่เจ้าของสามารถเลือกเลขประจำตัวบนหน้าปัดได้ซึ่งจะมีเพียงเรือนเดียวในโลกเท่านั้น และ Super Moon ที่นำเอาชิ้นส่วนของดวงจันทร์มาประดับบนหน้าปัด
ทีม Crazy Dial ขอขอบคุณ SHH Pendulum ที่ให้เราได้มีโอกาสได้พูดคุยใกล้ชิดกับคุณ Jean-Marie และคุณ Mikella รวมไปถึงได้สัมผัสนาฬิกาที่เรียกได้ว่าสวยทุกเรือนจริงๆครับ
#LouisMoinet #SHHPendulum #Crazydial
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial