ปิดฉากเรียบร้อย สำหรับทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020 และเป็นเหล่าพลพรรคอัซซูรี สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ เราจึงขอเก็บบรรยากาศควันหลง หยุด VR ดูข้อมือ 6 ผู้จัดการทีมดังชัดๆ กันหน่อยว่า แต่ละคนสวมใส่เรือนเวลาอะไรกันบ้าง
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
1.โรแบร์โต มันชินี (อิตาลี) – Richard Mille ‘Flyback Chronograph’
ยอดกุนซือผู้พลิกโฉมอิตาลี ให้เป็นทีมรุกก็ดีรับก็เด่น พร้อมบทพิสูจน์การเป็นแชมป์ครั้งนี้อย่างสมศักดิ์ศรี ความเก่งของมันโช่ บนเวทีระดับนานาชาติ ทำให้แบรนด์ดังอย่าง Richard Mille เล็งเห็นถึงศักยภาพ จึงได้ออกแบบ RM 11-04 Automatic Flyback Chronograph เพื่อให้บอสใหญ่ขุนพลอัซซูรี สวมใส่ในทัวร์นาเมนต์นี้โดยเฉพาะ จุดเด่นอยู่ตรงสีน้ำเงินแมทช์กับสีธงชาติ และฟังก์ชั่นในการจับเวลาการแข่งขัน เวลาพักครึ่ง และช่วงต่อเวลาพิเศษ
Listed price : 6,100,000 + บาท
Resale price : 15,900,000+บาท
2.แกเร็ธ เซาธ์เกต (อังกฤษ) – Hublot ‘Euro 2020’
น่าเหลือเชื่อเหลือเกินที่ แกเร็ธ ได้กลายเป็นผู้นำเทรนด์แต่งตัวผู้ชายไปโดยทันที หลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ แต่โชคไม่ค่อยดีนัก เมื่อนาฬิกาที่เจ้าตัวสวมใส่ในฐานะหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Hublot รุ่น Big Bang e UEFA Euro 2020 คงเป็นของขึ้นหิ้งน่าเก็บไปเสียแล้ว สืบเนื่องจากความผิดพลาดที่กลายเป็นความโดดเด่นบนขอบนาฬิกาเรือนนี้ โดยที่มาเกิดจาก เบื้องต้นทางยูฟ่ากำหนดจัดการแข่งขันขึ้นใน 12 เมืองทั่วยุโรปในปีที่แล้ว ดังนั้นธงของแต่ละประเทศเหล่านี้ จึงประดับล้อมรอบอยู่บนขอบหน้าปัดบนรุ่น แต่หลังจาก COVID-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ยูฟ่าจึงประกาศยกเลิกกรุงดับลิน ออกจากรายชื่อเจ้าภาพไป แต่ธงชาติไอร์แลนด์ยังคงปรากฏอยู่บริเวณตำแหน่ง 8 นาฬิกาอยู่เช่นเดิมนั่นเอง
Listed price : 183,000 บาท (ราคาช็อป ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือน)
Resale price : 264,000+ บาท
3.โรแบร์โต มาร์ติเนซ (เบลเยียม) – Hublot ‘Big Bang Unico’
เทียบจากชื่อชั้นกุนซือทีมใหญ่แล้ว มาร์ติเนซดูจะเป็นรองทุกคนอยู่หลายขุม นอกจากประวัติทำสโมสรวีแกน คว้าแชมป์ เอฟ เอ คัพ ที่เหลือก็ดูไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าไรนัก แต่เมื่อเขาเข้ามาคุมบังเหียน นั่งแท่นเป็นกุนซือใหญ่ให้กับเบลเยียม เจ้าตัวก็ดูดีราศีจับขึ้นมาบ้าง Hublot หนึ่งในแบรนด์นาฬิการายแรกๆ ที่ให้ความสนใจไปที่การแข่งขันระดับโลก จึงมอบรุ่น Hublot Big Bang Unico ให้มาร์ติเนซได้สวมใส่โชว์ในทัวนาเม้นต์ครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
Listed price : 2,000,000+ บาท
Resale price : 891,000+ บาท
4.เฟร์นานโด ซานโตส (โปรตุเกส) – Parmigiani ‘Tonda Chronor Anniversaire’
ยากเอาเรื่องทีเดียว เมื่อต้องระบุเรือนเวลาของกุนซือ คาแรคเตอร์ลึกลับ ดุดัน ผู้นี้ และหลังจากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คน จึงได้ข้อสรุป เหลือเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือ Parmigiani (พาร์มิจิอานี) แบรนด์นาฬิกาสวิสชั้นสูง ประดิษฐ์ตามแบบแผนอันเก่าแก่ ที่ผสานรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกับศาสตร์การผลิตชั้นเยี่ยม และเทคโนโลยีล่าสุดในยุคปัจจุบัน รุ่น Tonda Chronor Anniversaire ภายใต้ตัวเรือนทองคำขาว หน้าปัดนาฬิกาลงยาด้วยเทคนิค ‘Grand Feu’ (กรองด์ เฟอ) หนึ่งในศิลปะชั้นสูงแห่งงานฝีมือตามวิถีสวิส และการเคลื่อนไหวโครโนกราฟแบบ Split-Seconds (แยกจับเวลาได้สองรายการขึ้นไป)
Listed price : 4,400,000+ บาท
Resale price : 3,640,000+ บาท
5.โยอาคิม เลิฟ (เยอรมนี) – IWC ‘Portugieser Yacht Club Chronograph’
ในบรรดาผู้จัดการทีมชาติระดับโลกแล้ว เลิฟเป็นอีกหนึ่งคน ผู้มีความชื่นชอบนาฬิกาอยู่ใน DNA ในคอลเลคชั่นส่วนตัวของเขา มีทั้ง Rolex Datejust หรือคราวที่อินทรีเหล็กประกาศตัวผู้เล่นลุยศึกยูโร 2020 เขาได้สวมใส่ Seamaster Diver 300m ออกงานแถลงข่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มทัวร์นาเมนต์ เลิฟได้สวมใส่ IWC Portugieser Yacht Club Chronograph แบรนด์อันเป็นที่รักของเขา แต่หลังจากนี้เราคงไม่ได้เห็นเรือนเวลาในฐานะบอสใหญ่แห่งทีมอินทรีเหล็กอีกต่อไปแน่นอนแล้ว
Listed price : 390,000+ บาท
Resale price : 351,000+ บาท
6.ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ (ฝรั่งเศส) – Jaeger-LeCoultre ‘Master Compressor Extreme World Chronograph’
เราเคยเห็น ดิดิเยร์ สวม Jaeger-LeCoultre Master Compressor Extreme World Chronograph ซึ่งน่าจะเป็นนาฬิกาเรือนโปรดของเจ้าตัว ในช่วงรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 ก่อนที่ทีมของเขาจะแพ้เยอรมนีไป 1-0 และต้องจัดกระเป๋ากลับบ้านไปก่อนเวลา แต่หลังจากฟุตบอลโลกปี 2018 เป็นต้นมา ในนามแบรนด์แอมบาสเดอร์เช่นเดียวกับผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เราจึงได้เห็นข้อมือของเขา สลับสับเปลี่ยนใส่ Hublot หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Big Bang Chronograph, Spirit of Big Bang in King Gold และ Big Bang Connected สมาร์ทวอร์ช ก่อนที่ตราไก่จะจบทัวร์นาเมนต์นี้ ไปอย่างน่าผิดหวัง
Listed price : 590,000+ บาท (Jaeger-LeCoultre ‘Master Compressor Extreme World Chronograph’)
Resale price : 330,000+ บาท
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial