ด้วยผลงานออกแบบ Audemars Piguet ‘Royal Oak’, Omega ‘Constellation’ และ Rolex ‘King Midas’ ก็สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ Gérald Genta ได้ไม่ยาก ว่าแต่คอนเซ็ปชันนิสต์ที่ชาญฉลาดผู้นี้เป็นใครมาจากไหนกัน Crazy Dial ขอพาคุณไปทำความรู้จักชายผู้นี้ ผู้ที่ใครๆ ถึงได้พากันยกย่องให้เป็น ‘นักออกแบบนาฬิกาคนแรกของโลก’ หรือ ‘ดีไซเนอร์ในตำนาน’
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
Gérald Genta เกิดเมื่อปี 1931 ที่เมืองเจนีวา เริ่มฝึกงานอาชีพในร้านเครื่องประดับตั้งแต่วัย 15 กระทั่งร่ำเรียนและฝึกงานจนช่ำชอง เขาก็เริ่มมองหางานอาชีพที่พอเลี้ยงตัวเองได้ และด้วยความชอบพอในงานศิลปะ โดยเฉพาะงานออกแบบเครื่องประดับเป็นทุนเดิม เขาจึงมุ่งมั่นแสวงหาสิ่งที่ตัวเองชอบ
แต่ในช่วงต้นทศวรรษ 1950s นั้นไม่มีทางเลือกมากนัก เขาจึงต้องเบนเข็มและฝากอนาคตไว้กับแวดวง ‘นาฬิกา’ Gérald Genta ที่เคยบอกกล่าวในเวลาต่อมาว่า เขาไม่เคยคิดอยากสวมนาฬิกาเลยนั้น กลับได้รับจ๊อบจากบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหลายแห่ง บ้างว่าจ้างให้ออกแบบสายนาฬิกา บ้างตัวเรือน บ้างก็หน้าปัด และเขาก็ทุ่มเทให้กับงานออกแบบอย่างสุดความสามารถทุกครั้ง แม้ในเวลานั้นเขาจะได้รับค่าจ้างเพียง 15 สวิสฟรังก์ต่องานออกแบบหนึ่งชิ้น Gérald Genta ทำงานสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มมีแบรนด์ดังติดต่อมอบหมายให้เขาทำงาน
บ่ายวันหนึ่งในปี 1970 ผู้จัดการของ Audermars Piguet (AP) ติดต่อเขา มอบหมายให้ออกแบบนาฬิกาสปอร์ตรุ่นใหม่ มีคุณสมบัติกันน้ำ และให้เวลาเขาจนถึงวันรุ่งขึ้น Gérald Genta ใช้เวลาทั้งคืนในการคิดออกแบบ Royal Oak จากรูปทรงของหมวกดำน้ำทองเหลืองยุคโบราณ ออกแบบขอบ Bazel เป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมยึดติดกับตัวเรือน ฝังด้วยสกรูทองรูปทรงแปดเหลี่ยมจำนวนแปดตัว หน้าปัดสีน้ำเงินลาย petit tappisserie motif ตัวเรือนหนา 7 มิลลิเมตร แต่มีขนาดใหญ่กว่าที่กำลังนิยมกันในสมัยนั้นเล็กน้อย ผสานกับสายนาฬิกาโลกที่ทำจากสเตนเลสสตีล ดูประณีต สวยงาม และลงตัว สมกับเป็นงานออกแบบมาสเตอร์พีซ
สองปีต่อมา ผลงานออกแบบของเขาก็ได้รับการพัฒนาเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการผลิต ตัวแบบแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย AP Royal Oak รุ่นนี้มีการผลิตสืบต่อกันมากว่า 40 ปี และได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาหรูแนวสปอร์ต
นอกจากนั้นแล้ว Gérald Genta ยังร่วมมือกับวิศวกรของ IWC ออกแบบผลงานชิ้นอื่นๆ อีก ไม่ว่า Omega ‘Constellation’ ที่จวบถึงปัจจุบันยังเป็นคอลเล็กชันที่มีชื่อเสียงและไร้กาลเวลาที่สุดของแบรนด์ และ Patek Philippe ‘Nautilus’ ที่เขาใช้เวลาออกแบบร่างภายในงานบาเซลเวิลด์แล้วเสร็จภายในห้านาที! จนกลายเป็นนาฬิกายอดนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ผลงานอีกชิ้นของเขาที่นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุด คือ BVLGARI BVLGARI ที่เขาได้ไอเดียจากเหรียญโรมันโบราณ รวมถึง Rolex ‘King Midas’ ที่เอลวิส เพรสลีย์สวมใส่ เพื่อสื่อถึงผู้ครองอำนาจแห่งยุคสมัยในตำนาน แต่ในชีวิตประจำวันเขากลายเป็นผู้นำกระแส
ควบคู่ไปกับการทำงานออกแบบให้กับอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ในปี 1969 Gérald Genta ยังก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาของตนเองอีกด้วย ผลิตนาฬิกายอดนิยมออกมาคือรุ่น Evolution ในปี 1981 ที่แม้ตัวเรือนจะมีความหนาเพียงแค่ 2.72 มิลลิเมตร แต่กลไกอัตโนมัติพรั่งพร้อมจนใครๆ ในวงการต้องทึ่ง
จุดสูงสุดในชีวิตของ Gérald Genta อยู่ในปี 1992 เมื่อเขาออกแบบ Grande Sonnerie นาฬิกาที่มีความซับซ้อนทั้งด้านกลไกและการออกแบบ อีกทั้งได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาที่ราคาแพงที่สุดในโลก นั่นคือ หนึ่งล้านดอลลาร์
Gérald Genta ขายแบรนด์ของเขาในปี 1998 ก่อนวางมือจากวงการ และหันไปทำในสิ่งที่เขารัก และใฝ่ฝันอยากทำตั้งแต่วัยหนุ่ม คือการวาดรูป หันหลังให้กับผลงานออกแบบนาฬิกาที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับเขากว่า 100 เรือน จากผลงานออกแบบตลอดครึ่งศตวรรษกว่า 100,000 ชิ้น
นักออกแบบนาฬิกาคนแรกของโลก เสียชีวิตในเดือนสิงหาคม 2011 ในสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยวัย 80 ปี ทิ้งชื่อและผลงานไว้เป็นตำนานให้คนรุ่นหลังได้จดจำ
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial