Czapek & Cie Mount Erebus

Watch Update

 

เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบและนักสะสมนาฬิกา Czapek & Cie (ซาเป็ก แอนด์ เซีย) นำเสนอนาฬิกาที่ขายดีที่สุด รุ่น Antarctique (แอนตาร์กติก) ในตัวเรือนทองเป็นครั้งแรก เพื่อเติมเต็มนาฬิกาตัวเรือนโลหะล้ำค่า Czapek ยังได้นำหน้าปัดแบบ lamé ในตำนานของนาฬิการุ่น Antarctique Terre Adélie (แอนตาร์กติก แตร์ อาเดลี) รุ่นผลิตจำนวนจำกัดที่เปิดตัวในปี 2020 หวนกลับมาอีกครั้ง

 

╔═══════════╗

กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่

LINE : @crazydial

(https://lin.ee/wKkm5PM)

╚═══════════╝

 

“ความต้องการนาฬิการุ่น Antarctique ที่รังสรรค์จากโลหะล้ำค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองคำ มีมากขึ้นในกลุ่มนักสะสมนาฬิกาบางกลุ่ม จนกระทั่งเราไม่สามารถเพิกเฉยๆ ได้” Xavier de Roquemaurel (ซาเวียร์ เดอ โรคูมัล) ซีอีโอของ Czapek & Cie กล่าว “เพื่อสร้างสรรค์นาฬิการุ่นใหม่ เราต้องออกสำรวจทั้งจากประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จของคอลเลกชั่นนี้ รวมไปถึงภูมิศาสตร์ของทวีปแอนตาร์กติกาด้วย”

 

ตั้งอยู่บนเกาะ Ross (รอสส์) ในทวีปแห่งน้ำแข็ง ภูเขาซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น Antarctique ‘Mount Erebus’ คือภูเขาไฟที่อยู่ทางใต้สุดของโลกและยังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ ชื่อของมันได้รับการตั้งชื่อตามเรือสำรวจที่ค้นพบเกาะ Ross ในปี 1841 โดยมี Sir James Clark Ross (เซอร์ เจมส์ คลาร์ก รอสส์) ผู้บัญชาการเรือ HMS Erebus ที่ได้รับการตั้งชื่อตามเทพ เคออส (Chaos) เทพเจ้าในตำนานของกรีกที่เกิดจากความโกลาหล ลักษณะเด่นของภูเขาไฟลูกนี้คือการเกิดขึ้นของลาวาทองคำที่ถูกพ่นเป็นละอองออกสู่ชั้นบรรยากาศราว 80 กรัมต่อวัน ซึ่งหลอมละลายอยู่ในก๊าซที่พุ่งออกมาจากภูเขาไฟ ดังนั้น จึงไม่สามารถที่จะเก็บละอองทองเหล่านั้นได้

ความดั้งเดิมของไลน์นาฬิกา Antarctique ของ Czapek เผยให้เห็นในผลงาน ‘Mount Erebus’ อย่างชัดเจน ต้องขอบคุณพื้นหน้าปัดแบบ lamé พื้นผิวดั้งเดิมที่รังสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรกให้กับ Antarctique ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ในรุ่น Terre Adélie แบบผลิตจำนวนจำกัด ผลงานที่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Metalem โรงงานที่เป็นพันธมิตรกับ Czapek มายาวนาน ซึ่งรังสรรค์พื้นผิวด้วยหวีชนิดพิเศษที่ให้ผลลัพธ์ที่ดูราวกับพื้นผิวซาตินลุ่มลึก สร้างความโดดเด่นให้กับพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้ม (Deep Blue) ที่ผลิตด้วยเทคนิค CVD (การเคลือบด้วยไอเคมี) ในตัวเรือนโรสโกลด์ของ ‘Mount Erebus’

 

ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนขนาด 40.5 มม. และความหนา 10.6 มม. ตัวเรือนสีทองแบ่งปันรหัสการออกแบบทั้งหมดจากนาฬิการุ่น Antarctique ตัวเรือนสตีล ที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเส้นโค้งที่ไหลลื่น มุมที่ได้รับการขัดแต่งอย่างประณีตและความสมดุลในการขัดเงาบนพื้นผิวที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ซึ่งทำให้ทุกองค์ประกอบดูมีชีวิตชีวา

ตัวเรือนทองโรสโกลด์ 5N และทองเยลโลว์โกลด์ 2N ประกอบสายนาฬิกาที่ผลิตจากโรสโกล์ดหรือเยลโลว์โกลด์เช่นเดียวกับตัวเรือน พร้อมทางเลือกของสายยางที่มีให้เลือกหลายเฉดสี

นาฬิการุ่น Antarctique Mount Erebus Deep Blue ในตัวเรือนทองโรสโกลด์ 5N ผลิตจำนวนจากัดเพียง 100 เรือนและเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Czapek ทั่วโลก และร้านแฟล็กชิฟในเจนีวา หรือผ่านทาง Czapek.com ส่วนรุ่นตัวเรือนทองเยลโลว์โกลด์ 2N ผลิตจำกัดเพียง 50 เรือน จะมีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่ Czapek.com โดยการส่งมอบจะเริ่มในไตรมาสที่สองของปี 2024

@Czapek&Cie

@PendulumThailand

#Czapek&Cie #PendulumThailand

#CrazyDial #CrazyDialOfficial

 

 


ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของแวดวงนาฬิกาได้ที่นี่…

Crazy Dial – The Watch Community

Line : @crazydial

Instagram : crazydial.official

Facebook : crazydial.official

Website : www.crazy-dial.com

Youtube : Crazy Dial Official

Tiktok : crazydial