Watch update
Laurent Ferrier: Classic Moon
หลังจากการคว้าแชมป์ GPHG (จีพีเอชจี) ของนาฬิกา Grand Sport Tourbillon Pursuit (แกรนด์ สปอร์ต ทูร์บิยอง เพียวสูท) ที่มาพร้อมกับสีหน้าปัดอันอบอุ่นแห่งรุ่งอรุณ แบรนด์ LAURENT FERRIER (โลรอง เฟอริเย่) หวนคืนสู่รักแรกสุดคลาสสิกโดยพาเราท่องไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อมกับความปรารถนาอันแรงกล้ากับนาฬิกา Classic Moon (คลาสสิก มูน) รุ่นใหม่
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
╚════════════════╝
สตูดิโอของ LAURENT FERRIER ภูมิใจนำเสนอการตีความใหม่ของสองคอลเลกชันสุดคลาสสิก โดยนาฬิกาทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับฟังก์ชัน Annual Calendar (แอนนวล คาเลนดาร์) เพื่อบอกปฏิทินรายปี และความซับซ้อนของกลไก Moonphase (มูน เฟส) สำหรับบอกข้างขึ้นข้างแรมเป็นครั้งแรกของแบรนด์ โดยฟังก์ชัน Annual Calendar Moonphase (แอนนวล คาเลนดาร์ มูนเฟส) เป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่ GPHG เลือกให้เป็นนาฬิกาที่ดีที่สุดสำหรับสุภาพบุรุษในปี 2010 ซึ่ง
เป็นปีแรกที่แบรนด์ได้เปิดตัวนาฬิกาที่มาพร้อมกับฟังก์ชัน Moonphase
การออกแบบตัวเรือน
ตัวเรือนแบบคลาสสิกที่มาพร้อมกับลายเซ็นต์ของ LAURENT FERRIER ในส่วนโค้งของตัวเรือนอันนุ่มนวล ที่มีให้เลือกระหว่างสเตนเลสสตีลและโรสโกลด์ 18 กะรัต แบบขัดเงา โดยรูปทรงที่คุ้นเคยและผ่านวิวัฒนาการการออกแบบมาอย่างรอบคอบ ที่ทำหน้าที่บรรจุสองหน้าปัดที่ผลิตขึ้นอย่างประณีตด้วยมือ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ในการนาเสนอสองหน้าปัดที่โดดเด่น และส่งเสริมให้กับตัวเรือนสเตนเลสสตีลและเรดโกลด์ โดยช่างนาฬิกาที่ต้องการนาเสนอการตีความใหม่ใน
สไตล์คลาสสิก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของแบรนด์นี้
นาฬิกาทั้งสองรุ่นมีขนาด 40 มิลลิเมตร ที่มีความสมดุลและมีเส้นสายที่นุ่มนวลของขานาฬิกาที่เชื่อมโยงกับตัวเรือนอันประณีต และออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์บนข้อมือ โดยจุดเด่นทางสุนทรียศาสตร์ทั้งหมดมาจากภาษาการออกแบบของ LAURENT FERRIER ด้วยหน้าปัดแบบโค้งมนและเม็ดมะยมทรงกลมเหมือนลูกบอลที่จะมอบความสุขในขณะปรับตั้งเวลา
สำหรับนาฬิกาฟังก์ชัน Annual Calendar Moonphase มาพร้อมกับฝาหลังแบบโปร่งใสด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่เผยให้เห็นกลไกใหม่ คาลิเบอร์ LF126.02 พร้อมด้วยรอยบางทรงครึ่งวงกลมบนขอบฝาหลัง เพื่อช่วยให้ช่างนาฬิกาสามารถเปิดฝาหลังได้อย่างสะดวก เม็ดมะยมมีความโค้งเบา ๆ อย่างนุ่มนวลสำหรับการตั้งเวลาและวันที่ มีปุ่มที่ซ่อนอย่างแนบเนียนภายในตัวเรือนตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา สำหรับปรับตั้งวัน ในขณะที่ปุ่มตรงตำแหน่งระหว่าง 8 และ 9 นาฬิกา ที่ทำหน้าที่ปรับตั้งพระจันทร์ที่ผลิตจากกระจกอะเวนจูรีนที่ซับซ้อน
CLASSIC MOON SILVER
นาฬิกา Classic Moon ที่มากับฟังก์ชัน Annual Calendar Moonphase ที่สีื่อถึงความคลาสสิกและ
สง่างาม ซึ่งต้องขอบคุณหน้าปัดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน จากการขันลวดลายทางแนวดิ่งที่เปล่งประกายยามที่มีแสงส่องกระทบ ซึ่งเป็นการสื่อถึงความบริสุทธิ์ถึงแม้จะมีรายละเอียดบนหน้าปัดมากมายบนหน้าปัดตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่มีระดับต่ำกว่าปกติ ซึ่งเป็นที่อยู่ของหน้าต่างแสดงวันทางซ้ายและแสดงเดือนทางขวา เข็มชั่วโมงและนาทีเรียวยาวทรง Assegai (แอสเซไก) วัสดุไวท์โกลด์เคลือบรูทีเนียมซึ่งคุณสมบัติที่มาพร้อมกับการเปิดตัวครั้งแรกนั่นคือ สีน้าเงินที่ดูสุกใสซึ่งสร้างแรงบันดาลใจอย่างใกล้ชิดตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำหรับรายละเอียดพื้นฐานบนหน้าปัด ถ้านักสะสมที่รู้จักนาฬิกาในคอลเลกชันนี้ จะสังเกตได้ว่าหน้าปัดย่อยสำหรับบอกเวลาวินาทีจะมีการขยายขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งมีผลเนื่องจากความซับซ้อนของฟังก์ชันบอกข้างขึ้นข้างแรมเป็นครั้งแรกโดย LAURENT FERRIER ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นและซับซ้อน ของแผ่นแก้วอะเวนจูรีนและเคลือบอีนาเมลแบบโปร่งแสง นาฬิกา Classic Moon ในเวอร์ชันนี้มาพร้อมกับสายหนังลูกวัวสีน้ำตาลที่เย็บประกบเข้ากับแผ่นซับในอาคันทาร่า
CLASSIC MOON BLUE
คล้ายรุ่นหน้าปัดสีเงิน นาฬิกา Classic Moon เวอร์ชันที่สองโดย LAURENT FERRIER โชว์ความปราณีตแบบยากที่หาใครเทียบเคียงได้ หน้าปัดในโทนสีเดียวยังคงดูทันสมัยในสไตล์คลาสสิก และความท้าทายในการตีความความละเอียดอ่อนของฟังก์ชัน Annual Calendar Moonphase
นาฬิกามาในตัวเรือนสเตนเลสสตีลสไตล์คลาสสิก หน้าปัดสีน้ำเงินอมเทาที่เผยให้เห็นความรู้สึกทันสมัยด้วยเทคนิคเคลือบผิวแบบโอปาลีน ซึ่งตัดกับเฉดสีอันงดงามลวดลายกราฟฟิกและตัวอักษรโรมันสีขาว ทำให้รูปแบบตัวอักษรแบบดั้งเดิมดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ในเวอร์ชันนี้ตัวเลขในสเกลวันที่ล้อมรอบหน้าปัดด้วยสีฟ้าพาสเทลเช่นเดียวกับเข็มชี้ที่ทำงานร่วมกัน ในขณะที่วันที่ 31 ใช้สีฟ้าอันโดดเด่น โดยปลายเข็มยาวไปจรดกับขอบสเกลด้านนอก ในขณะที่เข็มชั่วโมง และ
นาทีเพรียวบางทรง Assegai ผลิตจากวัสดุไวท์โกลด์เคลือบแลคเกอร์สีขาวตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา มีการแสดงหน้าต่างบอกข้างขึ้นข้างแรมครั้งแรกของ LAURENT FERRIER ที่ดึงดูดสายตาได้
อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยกระจกอเวนจูรีนสีน้าเงินอันน่าหลงใหล และเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยทักษะงานฝีมือสุดปราณีตจากช่างผู้ชำนาญ ซึ่งวางอยู่ในหน้าปัดทรงกลมสีน้าเงินอมเทาเคลือบผิวแบบโอปาลินาและตัดกับสีน้าเงินของหน้าต่างบอกข้างขึ้นข้างแรม
นาฬิกา Classic Moon ในเวอร์ชันนี้มาพร้อมกับสายหนังนูบัคสีเทาก็เย็บประกบเข้ากับแผ่นซับในอาคันทาร่า
ความซับซ้อนของปัดพระจันทร์
ในฐานะนาฬิกาที่มาพร้อมกับหน้าปัดบอกข้างขึ้นข้างแรมเป็นเรือนแรกของ LAURENT FERRIER ผลงานการสร้างสรรค์ชิ้นใหม่นี้ เปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกที่รวมเอาฟังก์ชันอันซับซ้อนสองแบบเข้าไว้ด้วยกัน เริ่มจากกึ่งกลางของหน้าปัดย่อยสำหรับเข็มวินาที จะมีหน้าต่างบอกข้างขึ้นข้างแรมที่มาพร้อมกับจานสีน้าเงินเข้มที่แทนวัฏจักรหมุนเวียนของดวงจันทร์ เริ่มต้นที่ชิ้นอะเวนจูรีนสีน้ำเงินที่ผลิตโดย Murano artisans (มูราโน่ อะติซานส์) ที่ถูกสร้างเป็นดวงจันทร์และดวงดาวที่ลงสีขาวด้วยมือสุดประณีต จากนั้นมีการเติมสารเรืองแสงซุปเปอร์ลูมิโนว่าให้กับดวงจันทร์และดวงดาวด้วยมือและถูกนำไปเผาไฟอุณหภูมิสูง หลังจากนั้นมีการแกะสลักผิวของดวงจันทร์และลงสารเรืองแสง
ซุปเปอร์ลูมิโนว่าเพิ่มเติมลงไป จากนั้นก็มีการตกแต่งจานข้างขึ้นข้างแรมอันวิจิตรบรรจงด้วยการเคลือบอีนาเมลสีน้าเงินใส และตกแต่งด้วยเอฟเฟกต์อันซับซ้อนตื่นตาตื่นใจ เข็มวินาทีขนาดเล็กผลิตจากวัสดุไวท์โกลด์เคลือบแลคเกอร์สีขาวหรือรูทีเนียม โดยสามารถบอกข้างขึ้นข้างแรมของดวง
จันทร์จากซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ซึ่งดูได้จากตัวอักษร N และ S ที่อยู่ในสเกลบอกวินาทีสีขาว
เพื่อเป็นการสะท้อนถึงแบรนด์ LAURENT FERRIER ฟังก์ชันบอกข้างขึ้นข้างแรมสุดซับซ้อนของนาฬิกาเรือนนี้ เป็นการผสมผสานงานฝีมือของการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในปัจจุบัน
#LaurentFerrier #SHHPendulum #Pendulum
#CrazyDial #CrazyDialOfficial
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial