Piaget แปลงโฉม 3 คอลเลกชั่นเรือนเวลาไอคอนนิคของเมซง สู่สัมผัสแห่งเสน่ห์ครั้งใหม่ ด้วยการหยิบเอา “เทอร์ควอยซ์” อัญมณีเก่าแก่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนและอารยธรรมมายาวนานกว่าพันปี ผสานเข้ากับฝีมือช่างอันเลื่องชื่อที่เชี่ยวชาญด้านสีสันและการเล่นกับรูปทรง เรียกได้ว่านอกจากเฉดสีฟ้าของ “เทอร์ควอยซ์” จะชวนให้นึกถึงทัศนียภาพของเฟรนช์ ริเวียร่า ที่สะท้อนวิถีชีวิตอันหรูหราและมีศิลปะ จนส่งให้เมซงนำมาใช้สร้างสรรค์พื้นหน้าปัดนาฬิกาตั้งแต่ปี 1963 จวบจนปัจจุบันแล้ว ผลงานทุกชิ้นในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ยังเต็มไปด้วยรายละเอียดงานฝีมืออันประณีตในแบบฉบับของ Piaget ไม่ว่าจะเป็น แคปซูลคอลเลกชั่นจาก Sixtie นาฬิกาตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่เปิดพื้นที่หน้าปัดสีฟ้าอมเขียวให้ชื่นชมอย่างเต็มตา คงไว้เพียงชื่อแบรนด์และเข็มนาฬิกาเรียบง่าย ปราศจากอินเด็กซ์บอกเวลามาบดบัง

ขณะที่นาฬิกาสร้อยคอ อย่าง Sixtie Swinging Sautoir ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพสเก็ตช์ต้นแบบบนหน้านิตยสารแฟชั่นในอดีต
นอกจากแต่งแต้มด้วยหน้าปัดสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แล้ว ยังโดดเด่นด้วยเส้นสายทองคำบิดเกลียวด้วยมือ ก่อนผสานเข้ากับระย้าอันงดงามของพู่เพชรและทองได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ปิดท้ายกับผลงานที่ชวนหลงใหลกับ นาฬิกา Essentia ที่มาพร้อมตัวเรือนทรงอิสระไม่สมบูรณ์แบบตามขนบ โค้งเว้าไปมาดั่งระลอกคลื่น หน้าปัดหินเทอร์ควอยซ์ล้อมกรอบด้วยทองคำและเพชร ขณะที่สายนาฬิกาถ่ายทอดงานหัตถศิลป์การผลิตสายโซ่อันเป็นเอกลักษณ์ของเมซงได้อย่างสร้างสรรค์ ราวกับเป็นโอต์กูตูร์สำหรับข้อมือ





Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial