ทีมงาน CrazyDial มีโอกาสแวะเข้าไปที่บูติคของ Hublot ที่สยามพารากอน และได้สัมผัสเรือนพิเศษในคอลเลกชัน Big Bang 20th Anniversary ด้วยตัวเอง บรรยากาศการต้อนรับเป็นกันเองและมืออาชีพสุดๆ ทำให้เราได้เห็นทั้งงานดีไซน์ การเลือกวัสดุ และความตั้งใจในการสร้างสรรค์ที่ชัดเจน
จุดที่โดดเด่น
– ดีไซน์ที่ย้อนอดีต แต่ทันสมัย — Big Bang 20th Anniversary ผสมผสานสไตล์จากโมเดลแรก Big Bang (2005) กับรายละเอียดของ Big Bang Unico: ขอบเบเซิลแบบ knurled, lug ที่มีเอกลักษณ์, ตัวเรือน 43 มม. และหน้าปัดลายคาร์บอนที่ปรับให้ดูเด่นขึ้นด้วยตัวเลขอารบิกและ indices ที่เติม Super-LumiNova เพื่อให้มองได้ชัดในที่มืด
– กลไก Unico MHUB1280 ที่ทรงพลัง — เรือนเวลาในซีรีส์นี้ใช้กลไกโครโนกราฟอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน flyback, power reserve ประมาณ 72 ชั่วโมง, ความถี่ 4Hz
– วัสดุและความหลากหลาย — มีการใช้วัสดุต่างๆ ที่เป็นไฮไลต์ของ Hublot ตลอด 20 ปี: ไทเทเนียม + เซรามิก, King Gold + เซรามิก, Red Magic (เซรามิกสีแดง), All Black, และ Full Magic Gold (ทอง 18K แบบทนรอยขีดข่วนสูง)
– Limited Edition — แต่ละรุ่นจำนวนจำกัด (เช่น Titanium Ceramic และ All Black จำ 500 เรือน, King Gold Ceramic 250 เรือน, Red Magic และ Magic Gold 100 เรือน) ซึ่งเพิ่มความพิเศษสำหรับคนที่ชอบสะสม
– สายยางที่มีการออกแบบและระบบเปลี่ยนสาย One-Click — ทำให้จับใส่ จริง สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ที่สร้างประสบการณ์การใช้งานจริง ไม่ใช่แค่ดูสวยเฉยๆ
นอกจากนี้… ทีม Hublot ยังเอาเรือน Classic Fusion Chronograph UEFA Champions League Titanium — เรือนหนึ่งเดียวที่เข้ามาในไทยมาโชว์จริง มาให้พวกเราได้ลองสัมผัส กันตัวเป็นๆด้วยนะครับ เรือนนี้ผลิตจำกัด 100 เรือน หน้าปัดสีฟ้าสดใสกับไทเทเนียมเกรด-5 เบาแกร่ง ใส่แล้วได้ฟีลของทั้งความสปอร์ตและความหรูในเวลาเดียวกันเลย














Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial