เมื่อเทียบมูลค่าการส่งออกนาฬิกาสวิสในช่วงเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องเดือนมิถุนายนปี 2019 กับสถานการณ์ ณ เวลานี้หลังเจอพิษวิกฤตโควิด-19 ตัวเลขการส่งออกนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ไปยังตลาดทั่วโลกลดลงถึง 68% เป็นเงินกว่า 655.6 ล้านฟรังก์สวิส (กว่า 2 หมื่นล้านบาท) ยิ่งในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวเลขลดลงต่ำสุดถึง 81% โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาลดลงถึง 79% ซึ่งเป็นผลการดำเนินกิจการที่เลวร้ายที่สุดจากการจัดอันดับ Top 30 ตลาดส่งออกของสวิตเซอร์แลนด์ (สหรัฐอเมริกาอยู่ที่อันดับ 4)
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
ตลาดในประเทศจีนเป็นอันดับหนึ่งที่ส่งผลกระทบก่อนใครอื่น หลังจากไวรัสโคโรนาขยายวงกว้าง สำหรับตลาดในฮ่องกง การส่งออกเสียหาย 69% อยู่ที่อันดับสอง ส่วนตลาดชั้นนำอย่างญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สิงคโปร์ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ตัวเลขอยู่ที่ 53% ไล่เรียงกันตามลำดับ ส่งผลให้อุตสาหกรรมผลิตและการส่งออกนาฬิกาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์หยุดนิ่งเข้าขั้นอัมพาต
มีการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกนาฬิกาในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 526,744 เรือน นั่นคือจำนวนนาฬิกาที่น้อยกว่าถึง 1.3 ล้านเรือน เมื่อเทียบกับการส่งออกในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ก้าวเข้าสู่ความมืดมนแห่งการส่งออกนาฬิกาที่มีจำนวนน้อยที่สุด เทียบได้กับคราวสงครามโลกครั้งที่สองในช่วงปี ค.ศ. 1939-1945 และเหมือนความเสียหายจะยังไม่ยุติลงง่ายๆ เพียงเท่านั้น มีการคาดการณ์ว่า ภาพรวมการส่งออกไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับต้นๆ ในไตรมาสที่สองเชื่อมต่อไตรมาสที่สามจะยังคงไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องไปอีก
แม้รายงานข่าวของสื่อบางสำนักจะพยายามนำเสนอให้ความเห็นถึงการค่อยๆ ฟื้นตัวในประเทศจีน แต่ความน่าเชื่อถือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นยังคงมีไม่มากพอ การที่ Philippe Blondiaux ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของแบรนด์ CHANEL ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ส น่าจะย้ำชัดถึงภาพรวมขาลงของตลาดทั่วโลกได้เป็นอย่างดี “เราคาดว่าสถานการณ์ของโควิด-19 จะยังคงยืดเยื้อ และนำไปสู่การลดลงอย่างมากของรายได้และผลกำไรในปี 2020 ไปจนถึงอีก 18-24 เดือนข้างหน้านี้ด้วย”
สอดคล้องกับข้อมูลจาก Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ได้ให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันด้วยว่า ในช่วงระยะหลังถัดจากนี้ไปอีกสองปีข้างหน้า ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยจะค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 35% ทีเดียว โดยเฉพาะสินค้าประเภทนาฬิกา ยอดขายจะลดลงมากที่สุด หากเทียบกับสินค้าหรูหราประเภทอื่นๆ
เหตุปัจจัยสำคัญมาจากการขาดแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ เพื่อชดเชยการปิดตัวของช่องทางการขายในรูปแบบปกติ ซึ่งในตอนท้ายของรายงาน Bain ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า จำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าสินค้าหรูหราจะกลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะยังไม่เกิดขึ้นแน่นอนในปี 2020 อย่างเร็วที่สุดคงต้องนับหนึ่งที่ปี 2022 หรือ 2023 กันเลยทีเดียว
ก็ยังคงต้องอึด ต้องอดทนอดกลั้นกันต่อไปอีกพักใหญ่ๆ นาทีนี้ จะเบอร์เล็กเบอร์ใหญ่ก็จำเป็นต้องมีสติ เพื่อตั้งรับประคับประคองธุรกิจของตนเองให้พ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้ โควิด-19 แม้จะขวิดแรงเพียงใด ก็คงไม่ถึงกับทำให้ทุกอย่างบนโลกนั้นพังพินาศไปเสียหมด กัดฟันให้พ้นปีสองปีนี้ไปให้ได้ เชื่อว่าฟ้าหลังฝนนั้นย่อมแจ่มใสและสวยงามเสมอ
ทีมงาน Crazy Dial ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ทุกฝ่ายจงมีขวัญและกำลังใจที่ดี เพื่อฟันฝ่าวิกฤตคราวนี้ไปด้วยกัน
อ้างอิง: https://www.hodinkee.com/articles/may-swiss-watch-exports-paralyzed
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial