บลองแปง (Blancpain) รังสรรค์นิยามบทใหม่ให้กับสุดยอดเรือนเวลาระดับตำนานอย่าง ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ “โน เรดิเอชั่นส์” (Fifty Fathoms “no radiations”) อุปกรณ์ดำน้ำที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงกลางยุค 60 ซึ่งกลายเป็นอุปกรณ์คู่กายของหน่วยปฏิบัติการนักประดาน้ำจู่โจมประจำกองทัพเรือเยอรมัน นาฬิกาเรือนนี้ โดดเด่นด้วยเครื่องหมาย “โน เรดิเอชั่นส์” (no radiations) ที่บ่งบอกว่าบลองแปงไม่ได้นำเรเดียม (radium) มาใช้เป็นสารเคลือบพรายน้ำ ด้วยสัญลักษณ์ที่โดดเด่นนี้ ทำให้นาฬิกาฟิฟตี้ ฟาธอมส์ทุกๆรูปแบบที่มีสัญลักษณ์ดังกล่าวครองตำแหน่งหนึ่งในสุดยอดเรือนเวลาระดับไอคอน ซึ่งฟิฟตี้ ฟาธอมส์ โนเรดิเอชั่นส์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นใหม่ล่าสุดนี้ได้บรรจงถ่ายทอดตำนานเฉกเช่นเดียวกัน เหล่านักสะสมไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากเรือนเวลานี้รังสรรค์ขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือนเท่านั้นทั่วโลก
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
นิยามใหม่แห่งฟิฟตี้ ฟาธอมส์ โน เรด์ คือภาพสะท้อนถึงเรือนเวลาประวัติศาสตร์อันเป็นต้นกำเนิดและ แรงบันดาลใจของเรื่องราวทั้งมวล บนหน้าปัดนาฬิกาสีดำขัดด้านปรากฏหลักชั่วโมงทรงเรขาคณิตหลายหลากที่ล้วนเป็นไปตามแบบฉบับดั้งเดิม ทั้งรูปทรงจุดกลม รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และรูปทรงเพชรที่อยู่ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา วงรอบบริเวณหน้าปัด เข็มนาฬิกา และสเกลจับเวลาที่ขอบหน้าปัดล้วนเคลือบสารพรายน้ำซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) แบบ “โอลด์ เรเดียม” (old radium) ซึ่งเป็นโทนสีเบจอมส้ม ชวนให้รู้สึกถึงนาฬิกาวินเทจที่เกิดพาทิน่า (patina) สะท้อนร่องรอยของกาลเวลาที่ผันผ่าน นอกจากนี้ หน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ก็โดดเด่นด้วยการตัดขอบสีขาวตามหนึ่งในรุ่นจากอดีตยุค 60 มีสัญลักษณ์ “โน เรดิเอชั่นส์” สีเหลืองและแดงเป็นจุดเด่นบนหน้าปัด เสริมให้นาฬิกาเรือนนี้มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน
ส่วนขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียวผลิตจากกระจกแซฟไฟร์ตามอัตลักษณ์แห่งเรือนเวลาของฟิฟตี้ ฟาธอมส์โมเดลร่วมสมัย ทั้งนี้ขอบหน้าปัดทรงโดม รวมไปถึงการใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์แบบกลาสบ็อกซ์ (glassbox) ยิ่งช่วยเสริมให้หน้าปัดนาฬิกาดูมีมิติมากขึ้น มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำลึก 300 เมตร ตัวเรือนสตีลขนาด 40.3 มม. ซึ่งเป็นไซส์ที่สร้างสรรค์ขึ้นพิเศษสำหรับนาฬิกาฟิฟตี้ ฟาธอมส์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นเท่านั้น นาฬิกาเรือนนี้ทำงานด้วยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติคาลิเบอร์ 1151 ที่มาพร้อมซิลิคอน บาลานซ์สปริง (silicon balance spring) สำรองพลังงานได้นาน 4 วัน กระปุกลานคู่ทำงานสอดประสานกันอย่างสมดุล มีโรเตอร์ที่ถูกเซาะร่องเป็นทรงคาร์ทูช (cartouche) หรือทรงรี ถอดแบบมาจากเรือนเวลารุ่นประวัติศาสตร์ของคอลเลคชั่นซึ่งรวมถึงนาฬิกาฟิฟตี้ ฟาธอมส์เรือนแรกของโลกด้วย ลักษณะดังกล่าวนี้ในสมัยก่อนมีไว้เพิ่มความยืดยุ่นให้กับโรเตอร์เพื่อป้องกันความเสียหายของกลไกในกรณีที่มีกระแทกเกิดขึ้น สายนาฬิกาทำจากยาง “ทรอปิค” (Tropic) ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักดำน้ำในยุคก่อน เนื่องจากแข็งแรงทนทานอีกทั้งยังสวมใส่สบาย
สำหรับเรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชั่นใหม่ล่าสุดนี้ บลองแปงในฐานะอดีตผู้สร้างสรรค์สุดยอดอุปกรณ์ดำน้ำให้แก่เหล่าบรรดากองทัพทั่วโลก จึงได้นำอุปกรณ์ดำน้ำที่ทุกคนต่างปรารถนาให้หวนคืนมาอีกครั้ง ในปี 1953 หน่วยปฏิบัติการนักประดาน้ำจู่โจมแห่งกองทัพเรือฝรั่งเศส เป็นผู้นำร่องในการใช้ฟิฟตี้ ฟาธอมส์เพื่อปฏิบัติภารกิจใต้น้ำ เนื่องจากสามารถกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ดูเวลาได้ชัดเจนในทุกสภาวะ ปลอดภัย ทั้งยังงดงามและเปี่ยมประสิทธิภาพ จากนั้นฟิฟตี้ ฟาธอมส์ก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์ดำน้ำสำคัญที่ขาดไม่ได้ในทันที ต่อมาเหล่ากองทัพเรือจากประเทศต่างๆก็เริ่มหันมาใช้ตามกันอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงกองทัพเรือเยอรมัน ซึ่งในช่วงกลางยุค 60 ได้ใช้นาฬิกา ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ รุ่นอาร์พีจี 1 (RPG 1) หรือปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในนาม “บันด์ โน เรด์” (BUND No Rad) ที่มาจากภาษาเยอรมันว่า “บันเดอร์สเวอร์” (Bundeswehr) แปลว่ากองทัพ โดยถูกสลักอยู่ที่ด้านหลังตัวเรือน ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ดำน้ำที่เหล่า “คัมพ์ชวิมเมอร์” (Kampfschwimmer) หรือหน่วยรบพิเศษประดาน้ำคอมมานโดสวมใส่กันมาจนถึงต้นยุค 70 คุณลักษณะเด่นของรุ่นอาร์พีจี 1 นี้คือเครื่องหมาย “โน เรดิเอชั่นส์” ซึ่งปรากฏบนหน้าปัดนาฬิกา ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ เป็นครั้งแรก
ในช่วงต้นยุค 60 มีการออกประกาศว่าเรเดียมเป็นสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งในตอนนั้นเรเดียมเป็น สารกัมมันตรังสีที่นิยมนำมาใช้เป็นสารเรืองแสงบนหน้าปัดนาฬิกา ดังนั้น เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความปลอดภัยต่อ เหล่านักดำน้ำมืออาชีพ รวมไปถึงนักดำน้ำมือสมัครเล่นมากประสบการณ์ทั้งหลาย ที่ต่างก็หาซื้อนาฬิกาฟิฟตี้ ฟา ธอมส์มาใช้งานจากร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำเฉพาะทาง บลองแปงจึงตัดสินใจประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่านาฬิกาบลองแปงนั้นไร้ซึ่งสารเรเดียม จึงไม่มีอันตรายต่อผู้สวมใส่ โดยการประทับสัญลักษณ์พิเศษที่ประกอบด้วยส่วนสีแดงสามส่วนบนพื้นหลังสีเหลือง ทับด้วยเครื่องหมายกากบาทสีดำ พร้อมกำกับคำว่า “โน เรดิเอชั่นส์” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยสัญลักษณ์เดียวกันนี้ได้ปรากฏอยู่บนนาฬิกาฟิฟตี้ ฟาธอมส์ รุ่นอาร์พีจีเอ 1 (RPGA 1) ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มฟังก์ชั่นปฏิทินของ “บันด์ โน เรด์” และได้กลายเป็นฟังก์ชั่นหลักของนาฬิการุ่นต่อๆมา
นาฬิกาดำน้ำที่ประกาศไว้บนหน้าปัดว่าไร้เรเดียมด้วยโลโก้ “โน เรดิเอชั่นส์” ได้กลายมาเป็นนาฬิการุ่นยอดนิยมสำหรับนักสะสม และยังเป็นตำนานแห่งฟิฟตี้ ฟาธอมส์มาอย่างยาวนานเกือบ 70 ปีอีกด้วย
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial