มาแล้ววว Rolex 2023 เผยโฉมใหม่ สุดปัง ที่เห็นแล้วน้ำลายไหล พร้อมร้อง อยากด้ายยยย

เร็วกว่าที่คิด ดีต่อหัวใจกว่าที่คาด เมื่อ Rolex เผยโฉมเรือนเวลาประจำงาน Watches and Wanders 2023 อย่างเป็นทางการเรียบร้อยโรงเรียนสวิส และตัวว๊าวทรงท็อปอย่างที่เราเคยเดาไว้ก็มีเสียด้วย ไม่อยากเวิ่นให้เยอะ มัดรวมมาแล้วจัดหนักไปพร้อมกัน

╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่

LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝

 1. Cosmograph Daytona

ฉลองครบรอบ 60 ปี โลกไม่ลืม สำหรับ ‘King of Rolex Sport’ พระเอกของงาน ปรับโฉมใหม่เต็มทรงเปลี่ยนองค์เต็มสูบ เริ่มจากหน้าปัดออกแบบอย่างพิถีพิถันทั้งมาร์คเกอร์ และหน้าปัดย่อยสำหรับบันทึกเวลา Tri-Compax สุดคลาสสิกตั้งแต่แรกรุ่น ถูกรีดีไซน์ให้สมดุลละมุนคมชัดตัดกับหน้าปัดโดยรวม

 

ด้านทรงเรือน ขนาด 40 มม. หนา 11.9 มม. กันน้ำลึก 100 เมตร ถูกออกแบบใหม่ ให้ขอบเรียบและทรงขาสมส่วนประณีต ตัวเรือนจึงมีออร่าเปล่งประกายแวววาวมากขึ้น เมื่อเทียบกับตัวก่อนๆ พร้อมขับเน้น Bezel นิวลุค ผลิตจากวัสดุเดียวกับตัวเรือนที่ประกอบเข้ากับ Insert สลัก Tachymeter Scale วัสดุ Cerachrome อย่างมีมิติ

 

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่คือขุมพลังใหม่ Cal.4131 (จากเดิมคือ 4130 เมื่อปี 2000) ใช้เทคโนโลยีล่าสุดของ Rolex ทั้งหมด รวมถึง Chronergy Escapement โช้คอัพ Paraflex และเพิ่มความพิเศษสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ด้วยฝาหลังขันเกลียวแบบโปร่งใสในรุ่นตัวเรือน Platinum 950 ที่จะขยับกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานตัวตึงโลกไม่ลืมแน่นอน

 

รหัสตัวโฉมใหม่ 2023

126500 – สตีล

126503 – ทองคำและสตีล (Rolesor)

126505/9 – เอเวอร์โรสและไวท์โกลด์
126506 – แพลทินัม

126518 – ทองคำ และ Oysterflex

 

 2. Perpetual 1908

หนึ่งเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครคาดคิด แรงบันดาลใจจาก Oyster Perpetual เมื่อปี 1931 คือ 1908 อ้างอิงถึงวันที่เครื่องหมายการค้า Rolex ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในสวิตเซอร์แลนด์ หน้าปัดตัวเลข 3, 9, 12 และเข็มแสดงวินาทีขนาดเล็กที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เป็นการนำเอาสไตล์ดั้งเดิม จากปี 1931 มาปรับแต่งให้เข้ากับความทันสมัยของปัจจุบัน มาพร้อมตัวเรือนไวท์โกล์และทองคำ ฝาหลังโปร่งใสโชว์ขุมพลัง 7140 เป็นตัวขับเคลื่อน และชุดตัวล็อกสายแบบคู่ ที่สะดวกปลอดภัย และปรับขนาดสวมใส่เข้ากับข้อมือได้ง่าย

 

 3. Oyster Perpetual Yacht-Master 42

เจ้าแห่งความบางเบา นาฬิการ่างไทเทเนียม  RLX นัมเบอร์ทูของแบรนด์ หลังจากการเปิดตัว Deep Sea Challenge จึงนับได้ว่า YM42 เป็นตัวแรกของตระกูลเรือใบที่ผลิตจากไทเทเนียม โฉมนี้ผสมผสานการขัดเงา ทั้งส่วนป้องกันเม็ดมะยม ร่อง Bezel และขา เพิ่มเทคการแต่งผิวลายซาตินให้เกิดเกล็ดประกายระยิบระยับเทาๆ จนฉ่ำวาวกว่าเดิมไปทั่วบอดี้ เป็นสีเทาที่ไม่ฉาวและสุดจะดูดีจริงๆ 

 

 4. Oyster Perpetual  Sky-Dweller

นาฬิกาสำหรับนักเดินทาง ด้วยฟังก์ชันโซนเวลาและปฏิทินประจำปี โฉมใหม่มาในบอดี้ ไวท์โกลด์ 18 กะรัต พร้อมหน้าปัดสีดำหรือสีพิเศษเฉพาะ (เขียวมิ้นต์และบลูกรีน) และนับเป็นครั้งแรกที่เข้าคู่กับสาย Oysterflex ติดตั้ง Oysterclasp และระบบ Glidelock เหนืออื่นใดคือขุมกำลังใหม่ล่าสุด 9002 ทดแทน 9001 ที่โดนปลดระวาง หลังขับเคลื่อนนาฬิการุ่นนี้มานานนับแต่การเปิดตัวเมื่อปี 2012

 

 5. Oyster Perpetual GMT-Master II

จัดเป็นตัวตึงของรุ่น 2023 มามาดใหม่คอมโบเซต ทั้งคู่วัสดุสตีลและทองคำที่หายหน้าไปนานสำหรับตระกูลนี้ และ Bezel เซรามิกทูโทนสีเทาดำเป็นครั้งแรก แต่ในทางเทคนิคแล้วแทบจะเป็นของเดิม เพียงแต่มีการผสมผสานระหว่างสีและวัสดุใหม่เท่านั้น ข้อมูลจำเพาะทั้งหมดเหมือนกันกับรุ่น Pepsi และ Batman ขุมพลังมาจาก Calibre 3285 มาพร้อมสายแบบ Jubilee ที่มีจุดตรงตรงข้อกลางขนาดเล็ก 5 ข้อ ซึ่งถูกใช้ครั้งแรกในนาฬิกา Oyster Perpetual Datejust เมื่อปี 1945 และระบบ Easylink สำหรับขยายความยาวสายได้อีก 5 มิลลิเมตร และนอกจากนี้ยังมีรุ่นตัวเรือนและสายนาฬิกาทองคำ18 กะรัตทั้งเรือนอีกด้วย

 

 6. Explorer 40

นี่ก็ฉีกจนงง เพราะ Rolex สวนความต้องการตลาด เรื่องการเพิ่มขนาดหน้าปัด ด้วยการปรับตระกูล Explorer ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 40 มม. เข้าคู่กับตัวเรือน Oyster เป็นครั้งแรก  ช่วยทดแทนช่องว่างของหน้าปัด 39 มม. ที่ขาดหายไป หลังจากปรับมาผลิตในขนาด 36 มม. มาตลอดนับตั้งแต่ปี 2010 โฉมใหม่แห่งการผจญภัยนี้ ถูกขัดแต่งผิวลายซาตินให้ดูดีขึ้น เพิ่มฟังก์ชัน Chromalight ที่สามารถเรืองแสงสีฟ้าได้เมื่ออยู่ในที่มืด และกลายเป็นสีขาวสว่างเมื่ออยู่กลางแจ้ง แบบฉบับหนึ่งเดียวจาก Rolex เท่านั้น

 

 7. Oyster Perpetual Bubble

 หน้าปัดของ Oyster Perpetual ทั้งขนาด 31, 36 และ 41 โฉมใหม่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน แต่งแต้มด้วยรูปทรงฟองสบู่ตัดขอบดำหลากหลายขนาดและมีสีสันสดใส จากกลุ่มสีเมื่อปี 2020 ได้แก่ สีชมพูแคนดี้ สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ สีเหลือง สีแดงปะการัง และสีเขียว มีข้อแตกต่างทางเทคนิคระหว่างหน้าเล็กและใหญ่ คือ 31 ใช้ขุมพลัง 2232 ขณะที่ 36 และ 41 ใช้ Caliber 3230 ดังนั้นหากไม่คำนึงถึงสีสัน OP 2023 ถือว่ามีรูปแบบและการใช้งานที่คลาสสิกดีไม่เบา

 

 8. Day-Date 36

นาฬิกา Oyster Perpetual Day-Date 36 ตัวล่าสุดมาพร้อมหน้าปัดที่ทำจากอัญมณีตกแต่งสีสันแวววาว ราวกับจำลองภาพชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนมาไว้บนหน้าปัด นาฬิกาตัวเรือนเอเวอร์โรส ทองคำ และทองคำขาว 18 กะรัตนั้นจับคู่กันอย่างลงตัวกับหินอเวนจูรีนสีเขียว คาร์เนเลี่ยนและเทอร์ควอยซ์ เสน่ห์สุดๆ คือ ความงามคลาสสิกของสาย President ไม่ว่าจะทำจากทองคำ 18 กะรัตหรือแพลทินัม 950 นั้นเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ    

 


ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของแวดวงนาฬิกาได้ที่นี่…

Crazy Dial – The Watch Community

Line : @crazydial

Instagram : crazydial.official

Facebook : crazydial.official

Website : www.crazy-dial.com

Youtube : Crazy Dial Official

Tiktok : crazydial