ใครที่ตามติดสาระจาก Crazy Dial จะเห็นว่าเรามักพูดถึงแวดวงงานประมูลโลกนาฬิกาหรูอยู่บ่อยๆ และเรื่องราวเรือนเวลาที่เรากำลังจะนำเสนอจากนี้ ต้องบอกว่าอยู่ในเลเวลอัลตร้าหายาก ดังนั้นเราจึงไม่อยากให้แฟนคลับของเราได้พลาดรับรู้ข่าวสารนี้ด้วยเช่นกัน
3 เรือนเท่านั้นบนโลกใบนี้
เรือนเวลาสุดยอดปรารถนา ที่มีเพียง 3 เรือนในโลก จนถูกกล่าวว่านี่คือ End Game ของเหล่านักสะสมทั่วโลก ข่าวกระตุ้นต่อมอยากครอบครองให้กับบรรดาบิลเลียลแนร์ สายวอร์ชเลิฟเวอร์นี้มาจากบริษัทประมูลระดับโลกสัญชาติอังกฤษ Phillips ได้ขุดพบ Patek Philippe Ref 2523 ซึ่งเชื่อว่าถูกผลิตจากช่างนาฬิกาชั้นดี เป็นคอลเลคชั่นเพียง 11 เรือน ในยุคนั้น จุดเด่นอยู่ที่หน้าปัดเคลือบลงยารูปแผนที่ โดย 5 เรือนเป็นรูปแผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ 3 เรือนเป็นรูปทวีปอเมริกาใต้ และอีก 3 เรือน คือ ดินแดนยูเรเซีย (ยุโรปและเอเชีย) อย่างที่เห็น ทาง Phillips คาดการณ์ว่าราคาประมูลครั้งนี้จะสูงถึง 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย อยู่เฉียดๆ ร้อยยี่สิบสามล้านบาทเลยทีเดียว
╔════════════════╗
กดรับข่าวสารก่อนใครที่นี่
LINE : @crazydial
https://lin.ee/wKkm5PM
╚════════════════╝
Ref 2523 สองเรือนแรก มีเจ้าของแล้ว
สำหรับหน้าปัดเคลือบลงยารูปดินแดนยูเรเซียที่มีเพียงสามเรือนในโลกนั้น ปัจจุบันเรือนหนึ่งเป็นสมบัติของ Patek Philippe เอง โดยจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของแบรนด์ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ขณะที่อีกหนึ่งเรือน จัดเป็นคอลเลคชั่นส่วนตัว ของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่เป็นที่ทราบกันในวงการว่า ผู้ครอบครองท่านนี้ หวงแหน Ref 2523 อย่างมาก และใช้เงินจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยล้านเช่นกัน ในการได้มาถึงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
ย้อนอดีตไปกว่าสองทศวรรษ หลังจากที่ปรากฏโฉมในตลาดนาฬิกาหรู ไม่มีผู้ใดทราบว่า Ref 2523 เรือนสุดท้ายสาบสูญไปไหน กระทั่งถูกขุดค้นพบขึ้นครั้งนี้ ซึ่ง Philippe ยกว่า นี่เป็นความสง่างามอีกครั้งหนึ่งของตลาดการประมูลนาฬิกาหรูหายากเลยก็ว่าได้
รูปลักษณ์อมตะเหนือกาลเวลา
Ref 2523 เลอค่าด้วยตัวเรือนทองคำขาว ขนาดหน้าปัด 36 มิลลิเมตร เม็ดมะยมสองฝั่งซ้ายขวา หน้าปัดเคลือบลงยาเทคนิคครัวซอนเน (Cloisonné คือ การใช้เส้นลวดเล็กๆ ขดเป็นลาย ติดเข้ากับวัสดุที่หล่อเตรียมไว้ เมื่อได้ลายแล้ว จึงนำน้ำยาหยอดลงบริเวณช่องลายในขดเส้นลวด จากนั้นนำไปเผาให้น้ำยาแข็งตัวเป็นสีที่ใช้ประดับลาย ก่อนนำไปกลึงและขัดให้เรียบ)
เทคนิคดังกล่าวทำให้หน้าปัดรูปดินแดนยูเรเซีย โดดเด่นกลมกลืนด้วยโทนสีฟ้าเขียว และสีเทอร์ควอยซ์ เข้าคู่กับสายหนังสีน้ำตาลได้อย่างลงตัวงดงาม
สำหรับการประมูลครั้งนี้ จะจัดขึ้นในงาน The Geneva Watch Auction โดยความร่วมมือของ Philippe และ Bacs & Russo ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 และน่าตื่นเต้นเหลือเกิน เมื่อนึกถึงว่าใครกัน จะได้เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้าย ของเรือนเวลาที่ทั้งหายาก น่าดึงดูด และถือเป็น End Game ของเหล่านักสะสม (เงินหนัก) ทั่วโลก
ส่วน Crazy Dial ขอแสดงความยินดี ปนความอิจฉาเล็กๆ ให้แก่ผู้ครอบครองรายใหม่ล่วงหน้าเลยแล้วกัน
Crazy Dial มีเป้าหมายที่จะเป็น Creative StoryTelling สื่อเน้นการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างสังคมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับข้อมูลนาฬิกา สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนที่ชื่นชอบนาฬิกามือใหม่ รวมถึงนักสะสมนาฬิกามือเก่า ขอบคุณที่มาเป็นส่วนนึง และร่วมแบ่งบันประสบการณ์ไปพร้อมๆกัน กับ Crazy Dial